โรเบิร์ต กิ๊บส์ โฆษกทำเนียบขาวแถลงว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา จะเลื่อนการเดินทางเยือนภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกออกไปสามวัน เพื่อช่วยผลักดันแผนการปฏิรูปนโยบายสุขภาพให้ได้รับเสียงสนับสนุนจากสมาชิกพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรสก่อน โดยโอบามาจะเดินทางเยือนกวม อินโดนีเซีย และออสเตรเลียในวันที่ 21-26 มีนาคมนี้ แทนที่กำหนดการเดิมในวันที่ 18-24 มีนาคม
โอบามา นางแนนซี่ เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎร และแฮร์รี่ รีด ผู้นำเสียงข้างมากของวุฒิสภา เห็นพ้องกันว่า ประธานาธิบดีควรอยู่ในกรุงวอชิงตันต่อไปอีกสามวันเพื่อช่วยโน้มน้าวสมาชิกสภาจากพรรคเดโมแครตที่มีความคิดเห็นแตกแถวในเรื่องการยกเครื่องนโยบายด้านเฮลธ์แคร์ โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้นำสหรัฐได้ใช้เวลาเกือบทั้งหมดพบปะกับสมาชิกสภาคองเกรสสังกัดพรรคเดโมแครตเพื่อชักจูงให้สนับสนุนแผนปฏิรูปนโยบายสุขภาพของเขา
ทั้งนี้ คาดว่าสภาผู้แทนราษฎรจะลงมติร่างกฎหมายเฮลธ์แคร์และส่งต่อให้วุฒิสภาก่อนที่โอบามาจะออกเดินทางไปต่างประเทศในวันที่ 21 มีนาคม โดยนางเพโลซีแสดงความยินดีที่ปธน.โอบามาจะอยู่ในประเทศเพื่อมีส่วนร่วมในการผ่านร่างกฎหมาย พร้อมแสดงความหวังว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวจะผ่านความเห็นชอบจากสภาในกรอบเวลาที่หวังไว้
สำหรับภารกิจเดินทางเยือนภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในครั้งนี้นั้น โอบามาจะพบปะกับข้าราชการทหารที่กวม ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังอินโดนีเซีย ซึ่งนอกจากจะมีความสำคัญต่อผู้นำสหรัฐในฐานะที่เขาเคยใช้ชีวิตในช่วงวัยเด็กที่นั่นแล้ว อินโดนีเซียยังมีความสำคัญในฐานะที่เป็นประเทศที่มีชาวมุสลิมมากที่สุดในโลก ซึ่งจะเป็นการยกระดับความสัมพันธ์บทใหม่ระหว่างสหรัฐกับโลกมุสลิม
ส่วนการเดินทางเยือนออสเตรเลียของโอบามาจะถือเป็นโอกาสฉลองครบรอบ 70 ปีความสัมพันธ์ของสองประเทศ และคาดว่าผู้นำสหรัฐและบรรดาผู้นำของออสเตรเลียจะหารือในประเด็นต่างๆที่สหรัฐและออสเตรเลียมีความกังวลร่วมกัน ซึ่งรวมถึง อาวุธนิวเคลียร์
ขณะเดียวกัน ทำเนียบขาวแถลงด้วยว่า มิเชล โอบามา จะเดินทางเยือนเม็กซิโกในวันที่ 13-15 เม.ย. ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เดินทางเยือนต่างประเทศคนเดียวในฐานะสุภาพสตรีหมายเลข 1 โดยคาดว่าเธอจะพบปะกับชาวเม็กซิโกและเยาวชน และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนางมาการิตา ซาวาลา สุภาพสตรีหมายเลข 1 ของเม็กซิโก