ศอ.รส.เชื่อมือยิง M79 อาศัยจุดอ่อนก่อเหตุกลางวัน ประเมินม็อบแดงไม่ยื้ออยู่นาน

ข่าวการเมือง Monday March 15, 2010 18:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ในฐานะโฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ(ศอ.รส.)ส่วนกรณีการยิงระเบิด M79 เข้าไปในกรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์(ร.1 รอ.) ถ.วิภาวดีรังสิต จนทำให้ทหาร 2 นายได้รับบาดเจ็บว่า ผู้ไม่หวังดีได้ใช้โอกาสช่วงเวลากลางวันก่อเหตุ เนื่องจากมองเห็นจุดอ่อนจากการที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถตั้งด่านตรวจได้อย่างละเอียดในช่วงเวลากลางวัน เพราะเกรงจะส่งผลกระทบต่อการจราจร

แต่หากเป็นช่วงเวลากลางคืนจะสามารถก่อเหตุได้ยากกว่า เพราะเจ้าหน้าที่สามารถตั้งจุดตรวจ และตรวจสอบรถยนต์ได้มากและละเอียดกว่า

"เราประเมินว่า ผู้สร้างสถานการณ์ก็เข้าใจจุดอ่อนนี้ว่ากลางวันเจ้าหน้าที่ตั้งจุดตรวจได้ยาก แต่หากเป็นกลางคืน โอกาสที่ผู้ไม่หวังดีจะสร้างสถานการณ์คงมีน้อย เพราะเรามีจุดตรวจ จุดสกัดในช่วงกลางคืนมากกว่า และสามารถตรวจค้นรถได้มากกว่า ไม่ต้องกลัวปัญหาจราจร เพราะปริมาณรถมีน้อยกว่าช่วงกลางวัน" พ.อ.สรรเสริญ กล่าว

อย่างไรก็ดี ศอ.รส.รับทราบข้อมูลเบื้องต้นแล้วว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมรถต้องสงสัยที่คาดว่าจะก่อเหตุได้แล้ว

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวถึงภาพรวมการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดงในวันนี้ว่า การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงที่เคลื่อนพลไปยังกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์(ร.11 รอ.)นั้น ถือว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น จะมีก็เพียงแค่ผลกระทบด้านการจราจรเท่านั้น

"ไม่ผิดไปจากที่เราคาด ผู้ชุมนุมแบ่งคนมาราว 1.5-2 หมื่นคน ตั้งเวทีปราศรัยชั่วคราว ถือว่าไปได้ในกรอบกติกา แม้การจราจรจะติดขัดบ้าง แต่ไม่มีการบุกรุกเข้าไปในราบ 11 ก็ถือว่าพอจะอะลุ้มอะล่วยได้" โฆษก ศอ.รส.กล่าว

พ.อ.สรรเสริญ ยังคาดว่า การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงไม่น่าจะใช้ระยะเวลายาวนาน เนื่องจากจำนวนผู้ชุมนุมที่มีมากถึง 8-9 หมื่นคนอาจทำให้การจัดส่งเสบียงอาหาร และน้ำทำได้อย่างลำบาก ประกอบกับข้อมูลที่ใช้ในการปราศรัยบนเวทีก็เป็นข้อมูลเก่าที่มีการพิสูจน์แล้วว่าไม่เป็นความจริง ซึ่งจะทำให้ความน่าเชื่อถือของข้อมูลมีน้อยลง และเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้การชุมนุมไม่น่าจะยืดเยื้อ

ส่วนการระดมเลือดของกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น ค่อนข้างน่าเป็นห่วงเนื่องจากอยู่ในสภาวะอากาศร้อน และอาจมีความเสี่ยงติดโรคจากอุปกรณ์ที่นำมาใช้ และเห็นว่าการกดดันรัฐบาลด้วยวิธีการแปลกๆ เช่นนี้ควรจะต้องตอบคำถามสังคมให้ได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ