เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบระเบิด 2 จุดในบริเวณสถานที่ชุมนุมสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ตามที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ระบุว่า เจ้าหน้าที่การ์ดอาสา นปช. พบวัตถุต้องสงสัย ก่อนส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบว่า ซึ่งจากการตรวจสอบพบเป็นระเบิดปิงปอง 2 ลูก
ขณะที่ แกนนำนปช. ยืนยันว่าไม่ใช่ของกลุ่ม นปช. และเชื่อการวางระเบิดดังกล่าวเพื่อต้องการสร้างสถานการณ์และใส่ร้ายผู้ชุมนุม และจะเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้กับผู้เข้าร่วมชุมนุม
“มีข้อความตอนหนึ่ง พูดตอนวิดีโอลิงค์ มีคนนำน้ำผสมยาพิษให้กับผู้ชุมนุม ซึ่งเป็นข้อความที่เป็นเท็จโดยสิ้นเชิง แต่ฝ่ายนปช. นำมาขยายผล ต้องเรียนว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีหน้าที่บริการอาหาร พร้อมทั้งเมื่อคืนมีการเข้าตรวจอาวุธร่วมกับการ์ดเสื้อแดงพบระเบิดเพลิง 2 ลูก ซึ่งมีผู้ชุมนุมคนหนึ่งพกพาไว้ อ้างว่าเป็นกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 โดยเรื่องนี้ ศอ.รส. จะมอบให้ทางตำรวจแถลงข้อเท็จจริงต่อไป"นายสาทิตย์ กล่าว
นายสาทิตย์ ยังแสดงความกังวลต่อท่าทีการแสดงออกของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ใช้เลือดเป็นสัญญลักษณ์ในการเคลื่อนไหว เพราะอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นนำไปสู่ความรุนแรง และไม่ใช่วิธีตามสันติวิธีตามที่แกนนำประกาศไว้
นอกจากนี้ ประเด็นในการวิดีโอลิงค์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ในการแบ่งแยกชนชั้นเป็นประเด็นที่อ่อนไหวในสังคม ซึ่งการแบ่งแยกชนชั้นเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งทาง ศอ.รส. จะให้สื่อของรัฐได้ชี้แจง เพื่อให้สังคมรู้ว่าสังคมไทยไม่ได้มีการแบ่งแยกชนชั้น และรัฐบาลคำนึงถึงพี่น้องประชาชนทั้งในเมืองและชนบท อีกทั้งทาง ศอ.รส.ได้ขอความร่วมมือจากประชาชนในการแจ้งเบาะแสในกรณีที่อาจจะเกิดเหตุการณ์ความรุนแรง พร้อมกันนั้นก็จะเพิ่มมาตรการเข้มงวดมากยิ่งขึ้น
ส่วนกรณีสื่อต่างประเทศแสดงความกังวลว่า หากกลุ่มผู้ชุมนุมมีจำนวนลดลง ทางแกนนำอาจเปลี่ยนแนวทางใช้ความรุนแรงขึ้นได้ นายสาทิตย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ ศอ.รส.พยายามติดตามข่าวควบคู่ไปกับการดูแลอย่างใกล้ชิด
ด้านนายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ศอ.รส.ได้มีการปรับกำลังรักษาความปลอดภัย โดยในสถานที่ราชการ พลเรือน ทหาร บุคคลสำคัญ เครือข่ายและหน่วยงานสาธารณูปโภค จำนวน 38 แห่ง เนื่องจากมีคนบางกลุ่มไม่เห็นด้วยกับแนวทางเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช. จึงจำเป็นต้องมีการปรับกำลังดูแลรักษาความปลอดภัย