(เพิ่มเติม) กก.สิทธิฯ รับเป็นตัวกลางเจรจารัฐบาล-นปช.,นายกฯ ไม่ขัดข้องหากเคารพกติกา

ข่าวการเมือง Thursday March 18, 2010 13:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวหลังจากการหารือร่วมกันในช่วงเช้าวันนี้ เพื่อแสดงท่าทีที่ชัดเจนเกี่ยวกับความพร้อมที่รัฐบาลจะเปิดเจรจากับกลุ่มแนวร่วมประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (นปช.) เพื่อหาทางออก หากการชุมนุมเป็นไปอย่างสงบ อยู่บนกติกาที่ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ และไม่มีเงื่อนไขที่สร้างความลำบากใจต่อคู่เจรจา โดยมีคณะกรรมการสิทธิฯ เสนอเป็นตัวเป็นคนกลางประสานการเจรจาในครั้งนี้

"หากการเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ รัฐบาลก็ไม่ขัดข้องที่จะพูดคุย เพราะการหาคำตอบทางการเมืองนั้น รัฐบาลพร้อมจะรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย...ผมจริงใจที่จะคุยกันแลกเปลี่ยนกันบนเหตุผล และการชุมนุมที่อยู่ภายใต้กติกา"นายกรัฐมนตรี กล่าว

นางอมรา พงศาพิชญ์ ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า กรรมการสิทธิฯ ได้รับข้อเรียกร้องจากแกนนำนปช.ที่จะขอพื้นที่ในการพูดคุยกับรัฐบาล จึงนำมาแจ้งให้กับนายกรัฐมนตรี และยินดีที่จะช่วยประสานงานให้เกิดการเจรจาขึ้น

ทั้งนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนฯ ได้รับการยืนยันว่า รัฐบาลจะไม่ประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยจะใช้ก็ต่อเมื่อสถานการณ์มีความจำเป็นจริงๆ เท่านั้น และหากจำเป็นต้องประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ก็จะไม่ทำให้กระทบต่อสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน

"รัฐบาลยืนยันว่าจะไม่ใช้ พ.ร.ก.(การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน) จะใช้ในกรณีที่จำเป็นจริงๆ ซึ่งถ้าจำเป็นต้องใช้ก็จะไม่ทำให้กระทบสิทธิขั้นพื้นฐาน จะทำตามหลักสากล และคำวินิจฉัยของศาลปกครอง นี่คือสิ่งที่รัฐบาลได้ให้สัญญาไว้" นางอมรา ระบุ

พร้อมกันนี้ รัฐบาลยังเปิดทางให้มีการเจรจาระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มผู้ชุมนุม หากการเจรจานั้นจะนำไปสู่ข้อยุติทางการเมือง และความสงบสุขเรียบร้อย โดยจะต้องเคารพกติกากันทุกฝ่าย

นางอมรา กล่าวด้วยว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนฯ และรัฐบาลยังเห็นพ้องกันว่า การพูดจาที่มีลักษณะยั่วยุให้เกิดความรุนแรง หรือการพูดจาข่มขู่ หรือส่งเสริมให้ผู้ชุมนุมใช้ความรุนแรง ย่อมถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน นอกจากนี้การใช้วิธีการปิดล้อมสถานที่ราชการ ตลอดจนบ้านพักบุคคลต่างๆ ก็ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานด้วยเช่นกัน

ด้านนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มีหลายประเด็นที่รัฐบาลมีความกังวลใจ ไม่ว่าจะเป็นกรณีการเทเลือด, การปิดล้อมสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง และการข่มขู่คุกคาม หรือยั่วยุผู้ชุมนุมให้ใช้ความรุนแรง โดยกรณีการระดมเจาะเลือดและนำเลือดไปเทหรือขว้างปาตามสถานที่ต่างๆ นั้น สิ่งเหล่านี้แม้จะไม่ใช่การกระทำที่ถูกกฎหมาย แต่รัฐบาลจะพยายามบังคับใช้กฎหมายโดยให้มีความยืดหยุ่นและไม่ให้เพิ่มความตึงเครียดให้กับผู้ชุมนุม

"การเจาะเลือด เทเลือด ปาเลือด ซึ่งไม่ได้ถูกกฎหมายทั้งหมด แต่รัฐบาลจะบังคับใช้กฎหมายในลักษณะที่ไม่เพิ่มความตึงเครียด แต่จะรักษาหลักของกฎหมายไว้ เพื่อแสดงออกถึงความยืดหยุ่น อดทน แต่รัฐบาลคงไม่อาจละเลยได้ในกรณีการขว้างปา ซึ่งต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย" นายกรัฐมนตรี กล่าว

ส่วนการที่กลุ่มผู้ชุมนุมไปปิดล้อมสถานที่ต่างๆ รวมถึงบ้านพักส่วนตัวของตนนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การกระทำในลักษณะนี้ถือว่าไม่ใช่การชุมนุมตามสิทธิรัฐธรรมนูญ ดังนั้น จะขอใช้สิทธิในฐานะที่เป็นประชาชนคนหนึ่งร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนด้วย เพราะไม่ว่าจะเป็นสถานที่ของเอกชน หรือสถานที่พักส่วนบุคคลย่อมจะต้องได้รับการคุ้มครองสิทธิเช่นกัน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เข้าใจว่าในการชุมนุมนั้นแกนนำย่อมต้องใช้คำพูดปลุกเร้าอารมณ์ของกลุ่มผู้ชุมนุมให้มีอารมณ์ร่วมคล้อยตายเพื่อนำไปสู่เป้าหมายในการต่อสู้ร่วมกัน แต่สิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้คือการพูดจาในลักษณะหยาบคาย ข่มขู่ คุกคาม ยั่วยุให้เกิดความรุนแรง เพราะอาจจะนำไปสู่การเคลื่อนไหวที่ไม่เป็นไปโดยสงบและสันติ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ