จอน ฮันท์สแมน เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศจีนมั่นใจว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐกำลังปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น หลังจากที่ได้เกิดข้อขัดแย้งต่างๆที่กระทบความสัมพันธ์ทวิภาคี ตั้งแต่เรื่องค่าเงินไปจนถึงการขายอาวุธให้กับไต้หวัน
ทูตสหรัฐกล่าวปราศรัยที่มหาวิทยาลัยซิงหัว ซึ่งเคยเป็นสถานศึกษาของประธานาธิบดีหู จิ่นเทาว่า สหรัฐหวังว่า จะได้เห็นอัตราแลกเปลี่ยนที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น และกล่าวว่า ความคิดเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับไต้หวันและทิเบตจะไม่สามารถขัดขวางทั้ง 2 ฝ่ายในการร่วมมือกันด้านต่างๆ ทั้งการสร้างงาน การแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และการป้องกันอิหร่านไม่ให้เพิ่มความสามารถในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์
ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐทวีความตึงเครียด หลังจากที่มีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้น ทั้งการที่สหรัฐขายอาวุธให้กับไต้หวัน การขู่ถอนกิจการออกจากจีนของกูเกิล การพบปะกันระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐกับองค์ดาไล ลามะ เมื่อเดือนที่แล้ว รวมทั้งความขัดแย้งเกี่ยวกับค่าเงินหยวน
วุฒิสมาชิกสหรัฐสังกัดพรรคเดโมแครต รวมถึงวุฒิสมาชิกเชอร์ร็อด บราวน์ วุฒิสมาชิกชาร์ลส์ ชูเมอร์ และวุฒิสมาชิกเด็บบี สตาเบโนว์ กำลังกดดันประธานาธิบดีบารัค โอบามา ให้ใช้มาตรการที่แข็งกร้าวมากขึ้นเพื่อบีบจีนให้ขึ้นค่าเงินหยวน โดยวุฒิสมาชิกเหล่านี้อยู่ระหว่างร่างกฎหมายและจัดเวทีอภิปรายเรื่องผลกระทบของเงินหยวนที่มีต่อบริษัทสหรัฐ
ทางด้านนายเหวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวก่อนหน้านี้ว่า จีนไม่เห็นด้วยกับข้อกล่าวหาและมาตรการบีบบังคับต่างๆนานาให้จีนขึ้นค่าเงินหยวน โดยชี้ว่าไม่เป็นผลดีต่อการปฏิรูปอัตราแลกเปลี่ยน ในทางตรงกันข้าม การรักษาอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนให้มีเสถียรภาพนับว่ามีบทบาทสำคัญในการช่วยให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวจากวิกฤตการเงินครั้งเลวร้ายสุดในรอบหลาบสิบปี
"นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนของประเทศหนึ่ง และอัตราแลกเปลี่ยนของประเทศนั้น ควรขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจและสภาพเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆ" เหวินกล่าว พร้อมย้ำว่า จีนจะยังคงปรับปรุงกลไกการพัฒนาอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวน และรักษาอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนให้มีเสถียรภาพในระดับที่สมดุลและสมเหตุสมผล