นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เชื่อว่าในปีหน้าจะมีการเลือกตั้งใหม่เกิดขึ้นแน่นอน เพราะไม่ได้คิดว่าจะบริหารงานจนครบเทอม แต่ขณะนี้ยังมองไม่เห็นว่าการยุบสภาจะนำไปสู่ทางออกวิกฤติได้ และหากไม่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อกำหนดติกาการเลือกตั้งที่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ก็เชื่อว่าการยุบสภาคงจะเป็นไปได้ยาก
"อย่างที่ผมเรียน เลวร้ายที่สุดสำหรับคนที่ไม่ชอบรัฐบาลนี้เลย ปีหน้าก็ต้องเลือกตั้งอยู่แล้ว ผมไม่คิดหรอกว่าจะอยู่ครบเทอม...ผมย้ำอีกครั้งถ้ายุบสภาแล้วแก้ปัญหาได้ มาคุยกันว่าจะแก้กันอย่างไร ถ้ายุบสภาแล้วยังปลุกระดมให้เกิดความเกลียดชัง ไม่ใช่คำตอบ ความแตกแยกยังจบ"นายอภิสิทธิ์ กล่าวให้สัมภาษณ์ผ่านโทรทัศน์เช้าวันนี้
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พร้อมจะพูดคุยเพื่อหาทางออกถึงปัญหาบ้านเมือง โดยจะขอรอดูท่าทีของแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)ที่จะเจรจากับรัฐบาลก่อน แม้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะมีท่าทีไม่อยากจะให้มีการเจรจาเกิดขึ้น ดังนั้น ต้องดูว่าแกนนำนปช.จะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร "ผมจะรอดูเมื่อทางแกนนำฯ พร้อมจะพูดคุยกับผม กรรมการสิทธิฯเป็นตัวเชื่อม แต่คุณทักษิณ บอกว่าไม่เอา ผมจะรอดูว่าคุณทักษิณจะว่าอย่างไร สุดท้ายการเคลื่อนไหวจะนำไปสู่อะไร และการยุบสภาจะแก้ไขปัญหาได้จริงไหม" นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี มองว่าในขณะนี้หากยังไม่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญคงจะเป็นเรื่องยากที่ทุกฝ่ายจะยอมรับกติการ่วมกัน เพราะหากกลับไปเลือกตั้งในขณะนี้ก็ยังคงใช้รัฐธรรมนูญฉบับเดิม ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญที่นำไปสู่การยุบพรรคพลังประชาชน ซึ่งหากกลับไปเลือกตั้งใหม่ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็ไม่แน่ใจว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะยอมรับได้หรือไม่ จึงขอให้ทุกฝ่ายมาพูดจาตกลงกันก่อนว่าจะดำเนินการเรื่องนี้ไร
ส่วนประเด็นที่กลุ่มผู้ชุมนุมนำมาเรียกร้องเรื่องความเหลื่อมล้ำทางสังคมนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ความเหลื่อมล้ำยังมีอยู่จริงในทุกสังคม แต่รัฐบาลพยายามจะแก้ไข และไม่อยากให้นำเงื่อนไขความเหลื่อมล้ำทางสังคมมาเป็นประเด็นที่นำไปสู่ความขัดแย้งหรือความเกลียดชังภายในสังคม และคงเป็นเรื่องยากที่จะแก้ไขประเด็นดังกล่าวในช่วงเวลาสั้นๆ ได้