ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ ตัดสินใจเลื่อนกำหนดการเดินทางเยือนกวม อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย เป็นครั้งที่สอง เพื่อให้ความสำคัญกับการผลักดันร่างปฏิรูปนโยบายสุขภาพให้ผ่านการรับรองของสภาคองเกรส
โรเบิร์ต กิ๊บส์ โฆษกทำเนียบขาวแถลงต่อผู้สื่อข่าวว่า ประธานาธิบดีโอบามารู้สึกเสียใจมากที่ต้องเลื่อนการเดินทาง และหวังว่าจะสามารถเยือนอินโดนีเซียได้ในเดือนมิ.ย.นี้
แรกเริ่มเดิมที ผู้นำสหรัฐมีกำหนดการที่จะออกเดินทางเยือนเอเชียในวันที่ 18 มีนาคม แต่ได้ตัดสินใจเลื่อนออกไปอีกสามวันเป็นวันที่ 21 มีนาคม ก่อนที่จะประกาศเลื่อนอีกครั้งดังกล่าว
โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า พันธมิตรต่างประเทศมีความสำคัญยิ่งต่อความเจริญก้าวหน้าการทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของอเมริกา แต่การผ่านร่างปฏิรูประบบประกันสุขภาพมีความสำคัญที่สุด และประธานาธิบดีโอบามาก็ตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะเห็นร่างดังกล่าวผ่านสภาคองเกรสตั้งแต่ต้นจนจบ
ก่อนหน้านี้ มีการคาดหมายกันว่าสภาผู้แทนราษฎรจะลงมติร่างกฎหมายปฏิรูปโครงการประกันสุขภาพและส่งต่อให้วุฒิสภาก่อนที่โอบามาจะออกเดินทางไปต่างประเทศในวันที่ 21 มีนาคม แต่ดูเหมือนว่า การลงมติครั้งสุดท้ายเกี่ยวกับร่างดังกล่าวจะไม่สามารถเสร็จได้ทันก่อนช่วงบ่ายวันอาทิตย์ ประธานาธิบดีโอบามาจึงตัดสินใจยกเลิกการเดินทาง และได้โทรศัพท์ถึงผู้นำอินโดนีเซียและออสเตรเลียเพื่อชี้แจงเรื่องนี้แล้ว
ทั้งนี้ โอบามาจะเดินทางเยือนกวมเป็นจุดหมายแรกเพื่อพบปะพูดคุยกับข้าราชการทหารสหรัฐซึ่งประจำการอยู่ที่นั่น ก่อนเดินทางต่อไปยังอีกสองประเทศ
สำหรับการเดินทางเยือนอินโดนีเซียนั้น นอกจากจะมีความสำคัญต่อผู้นำสหรัฐในฐานะที่เขาเคยใช้ชีวิตในช่วงวัยเด็กที่นั่นแล้ว อินโดนีเซียยังมีความสำคัญในฐานะที่เป็นประเทศที่มีชาวมุสลิมมากที่สุดในโลก ซึ่งจะเป็นการยกระดับความสัมพันธ์บทใหม่ระหว่างสหรัฐกับโลกมุสลิม
ส่วนการเดินทางเยือนออสเตรเลียของโอบามาจะถือเป็นโอกาสฉลองครบรอบ 70 ปีความสัมพันธ์ของสองประเทศ และคาดว่าผู้นำสหรัฐและบรรดาผู้นำของออสเตรเลียจะหารือในประเด็นต่างๆที่สหรัฐและออสเตรเลียมีความกังวลร่วมกัน ซึ่งรวมถึง อาวุธนิวเคลียร์