นายกฯเดินหน้าบริหารปท.ประชุมครม.อังคารนี้-ต่ออายุ พ.ร.บ.มั่นคงฯ

ข่าวการเมือง Sunday March 21, 2010 11:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เตรียมประชุม ครม.ในวันอังคารที่ 23 มี.ค.53 ตามปกติ โดยจะพิจารณาสถานที่การประชุมอีกครั้ง โดยเห็นว่ารัฐบาลต้องเดินหน้าบริหารประเทศตามปกติ แม้สัปดาห์ที่ผ่านมาไม่มีการประชุม ครม.แต่ได้มีการติดตามงานในทุกด้ราน มีการประชุมติดตามอย่างใกล้ชิด ทั้งนโยบายการต่างประเทศ สังคม ด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจากการชุมนุมที่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว โดยพบว่ามีจำนวนผู้โดยสารในสนามบินสุวรณภูมิลดลง และมีการยกเลิกการเดินทางมาไทยไปจนถึงเดือน เม.ย. โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากจีน เกาหลีใต้ ซึ่งได้มอบหมายให้มีการส่งข้อมูลผลกระทบที่เกิดขึ้นอีกครั้งทั้งจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)และสมาคมโรงแรม และมอบหมายให้ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ตั้งศูนย์บริหารประชาสัมพันธ์ชี้แจงนักท่องเที่ยวด้วย

สำหรับปัญหาภัยแล้ง ปีนี้มีการพยากรณ์ว่าจะแล้งมาก ซึ่งขณะนี้ภาคใต้จะเริ่มมีปัญหาภัยแล้งเกิดแล้ว น้ำในเขื้อนที่บางจุดลดลงมาก โดยระดับน้ำภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์เหลือ 40% ใช้งานได้แค่ 20% ใช้ได้ถึง พ.ค. ซึ่งน้ำมีเพียงพออุปโภคบริโภค และเพื่อนำนาปี 1 ครั้ง ปริมาณน้ำไม่เพียงพอที่จะทำนาปรังรอบ 2ง ซึ่งที่เป็นห่วงคือที่ จ.พิษณุโลก สุโขทัย เริ่มเห็นเกษตรกรทำนาปรังราอบสอง อาจมีปัญหาเรื่องการส่งน้ำ ซึ่งรัฐบาลขอเตือนว่าผู้ปลูกข้าวนาปรังรอบ 2 จะไม่สามารถเข้าโครงการประกันรายได้เกษตรกรได้ ซึ่งสถานการณ์ภัยแล้ง ปัญหาแม่น้ำโขง จะได้ติดตามใกล้ชิดและนำไปสู่ประชุมลุ่มแม่น้ำโขง และอาเซียนในเดือน เม.ย. เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับประชาชนส่วยนใหญ่ที่รัฐบาลยังเดินหน้าติดตามและพร้อมสั่งการให้หน่วยงานเข้าช่วยเหลือผู้เดือดร้อน

ส่วนสถานการณ์การชุมนุมยืนยันว่าหลักจากนี้รัฐบาละจะพูดเคุยกับกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อให้งานต่างๆ เดินได้ โดยการชุมนุมต้องใช้สิทธิตามกรอบรัฐธรรมนูญ แต่ไม่ล้ำสิทธิผู้อื่น ขณะที่การประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯจะใช้สิ้นสุดวันที่ 23 มี.ค.นี้ ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีที่ดูแลฝ่ายความมั่นคงพิจารณาต่ออายุการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ แต่จะไม่ประกาศล่วงหน้านานเกินไป และอาจจำกัดกรอบพื้นที่น้อยง เนื่องจากการชุมนุมอยู่ในสถานการณ์ที่จำกัดแล้ว และจะขอความร่วมมือผู้ชุมนุมเกี่ยวกับการจัดงานกาชาด และการสัญจร ให้มีปัญหาจราจรน้อยลง

อยางไรก็ตาม ยังมีความกังวลนื้อหาสาระบนเวทีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่แม้มีการเรียกร้องความเป็นธรรม เรื่องประชาธิไตย แต่ยังมีการปราศรัยโจมตีตนเอง แต่ไม่ควรกระทำในคือลักษณะสร้างความเกลียดชังใช้ข้อมูลเป็นเท็จ เช่นการตัดต่อเสียง กล่าวหาว่าสั่งให้ฆ่าคนคนเมื่อ เม.ย. พูดเรื่องสงครามชนชั้น เป็นการสร้างความเกลียดชังคนไทยด้วยกัน

"เรื่องอารมณ์มันห้ามกันไม่ได้ หากมีคนมาบอกว่าเป็นฆาตรกรทุกวันๆ ก็ห้ามไม่ได้ ถ้าบ้านถูกเทเลือดก็รู้สึกได้ แต่สิ่งที่ยิ่งใหญ้กว่าคือบ้านเมือง ส่วนรวม ตัวผมจะโกรธจะเคืองก็เป็นปุถุชน แต่ในฐานะนายกฯก็ต้องถอดความรู้สึกนี้...แต่ถ้ามาปิดล้อมทำเนียบ ปิดสภา ก็เป็นอีกเรื่อง หรือปิดสนามบิน ผมก็บอกตลอดว่าไม่เห็นด้วย ผมเป็นคนแรกที่บอกไม่เห็นด้วยกับการกระทำนี้ เพราะการขัดขวางการทำงานไม่ควร" นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า การทำหน้าที่บริหารประเทศ มีที่ปรึกษาอยู่แล้ว คือที่ปรึกษานายกฯ พรรคมีสภาที่ปรึกษา แต่ประธานองคมนตรีไม่ได้เกี่ยวข้องในการบริหารประทเศ ซึ่งเป็นระบบที่ตนเองทำงานมาตลอด ส่วนที่พูดว่ามีระบบอำมาตย์ขัดขวางประชาธิปไตย ขัดขวางคนจน แทรกแซงการทำงานนั้นไม่เป็นความจริง ซึ่งงานเดิมของอดีตนายกรัฐมนตรีทึ่เป็นนโยบายที่ดี รัฐบาลก็นำมาสานต่อ ทั้งโครงการโอท็อป โครงการ 30 บาท และมีโครงการใหม่ๆ เช่น เรียนฟรี เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ

ทั้งนี้หากมีโอกาสพูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ อยากบอกว่าให้เห็นแก่ส่วนรวม อยากให้ประเทศชาติเดินหน้า อยากให้ยอมรับกฎ กติการของบ้านเมืองเช่นคนไทยอื่น ๆ อย่ามีสิทธิพิเศษ ว่าเมื่อศาลตัดสินแล้วไม่ยอมรับ เพราะเมื่อยอมรับแล้วเชื่อว่าสังคมไทยเป็นสังคมให้อภัย และมีการแสดงออกของการให้อภัยได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ