พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก ประธานชมรมอาสาพิทักษ์ปกป้องตำรวจและครอบครัว ได้เข้ายื่นหนังสือต่อนายสมัคร เชาวภานันท์ ส.ว.สรรหา ประธานคณะกรรมาธิการการยุติธรรมและการตำรวจ วุฒิสภา เพื่อขอความเป็นธรรมกับ พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการแต่งตั้งโยกย้ายที่ผ่านมา ซึ่งกรณีดังกล่าวทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม มีการแทรกแซงจากฝ่ายการเมืองใช้เงินซื้อตำแหน่ง ทำให้ตำรวจที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดทนเสียสละ เป็นตำรวจที่ดีไม่ได้รับการเหลียวแลจากผู้บังคับบัญชา กระทบขวัญกำลังใจ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อวงการตำรวจ หากปล่อยให้เรื่องเงียบหาย ไปโดยไม่ได้รับการเยียวยาจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ดังนั้น จึงขอให้คณะกรรมาธิการดำเนินการตรวจสอบและสอบสวนข้อเท็จจริงในกระบวนการแต่งตั้ง พล.ต.อ.สมเพียร ว่าเป็นไปตามกฎหมายระเบียบและคำสั่งว่าด้วยการแต่งตั้งหรือไม่ และปฏิบัติตามมติครม.กรณีการให้บำเหน็จความชอบการแต่งตั้ง และสิทธิพิเศษ แก่ผู้ปฏิบัติงานใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ มีการทุจริต หรือแทรกแซงทางการเมืองหรือไม่ และใครเป็นผู้รับผิดชอบ และขอให้คณะกรรมาธิการให้ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาในอนาคตเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลภายในสตช.
ด้านนายสมัคร เชาวภานันท์ ส.ว.สรรหา ประธานคณะกรรมาธิการการยุติธรรมและการตำรวจ วุฒิสภา กล่าวว่า คณะกรรมาธิการได้ตั้งเรื่องเพื่อพิจารณากรณีดังกล่าว โดยมอบให้คณะอนุกรรมาธิการกิจการตำรวจที่มี พล.ต.ท.พิชัย สุนทรสัจบูลย์ ส.ว.อุดรธานี เป็นประธาน โดยเบื้องต้นจะมีการตั้งกระทู้ถามนายกฯเพื่อขอคำชี้แจงจากฝ่ายบริหารแล้ว ขณะเดียวกันได้มีการพิจารณาปรับย้าย เลื่อนตำแหน่ง ซึ่งได้ขึ้นโครงร่างวิจัยโครงสร้าง สตช.ทั้งหมด
ขณะที่ พล.ต.ท.พิชัย กล่าวว่า คณะอนุกรรมาธิการได้มีการพิจารณาไปบ้างแล้ว และได้ตั้งข้อเสนอแนะต่อนายกฯ และรองนายกฯ ที่กำกับดูแล สตช.ใน 3 ข้อคือ 1.ฝ่ายการเมืองต้องยุติการแทรกแซง แต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ 2.นายกฯ ต้องกล้าหาญ ทำบุญไถ่โทษโดยการแก้ไข พ.ร.บ.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเฉพาะการแต่งตั้งโยกย้ายต้องไม่เปิดช่องให้ผู้มีอำนาจทางการเมืองเข้ามาแทรกแซง และ3.ต้องกล้าหาญทบทวนการเข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นประธาน กตร. ประธาน กตช. โดยฝ่ายการเมือง เพราะตราบใดที่ยังฝ่ายการเมืองเป็นประธานก็หนีไม่พ้นที่จะมีการแทรกแซงจากส.ส.ของพรรคท่าน ถ้าท่านกล้าทำคุณไถ่โทษเชื่อว่าพี่น้องตำรวจจะให้อภัยได้ และจะได้พิสูจน์ว่าท่านเอาจริง เอาจังหรือไม่ จะได้รู้กันว่าที่พูดกันว่านักการเมืองพูดปากอย่าง ทำอีกอย่างจริงหรือไม่
นอกจากนี้ พล.ต.ท.ชัจจ์ ยังได้ยื่นหนังสือเพื่อขอให้สอบสวนพล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่สั่งระงับการเสนอสำนวนขออนุมัติออกหมายจับ ผู้ต้องหาจากศาล จากกรณีที่พนักงานสอบสวนของกองปราบปรามได้นำสำนวนการสอบสวนในคดียึดสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมืองไปเสนอต่อศาลเพื่อขอออกหมายจับ ขณะที่พนักงานสอบสวนนำสำนวนสอบสวนทั้งหมดไปยังศาล เพื่อขอให้พิจารณาออกหมายจับผู้ต้องที่เกี่ยวข้องกับการยึดสนามบิน แต่ปรากฏว่าพล.ต.อ.ปทีปได้สั่งให้พนักงานสอบสวนนำสำนวนการสอบสวนกลับ จึงเป็นเหตุให้กระบวนการขอให้ศาลออกหมายจับ ไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ ซึ่งกรณีนี้ชี้ให้เห็นความไม่ถูกต้อง ที่ พล.ต.อ.ปทีปในฐานะ รรท.ผบ.ตร. ไม่สมควรทำอย่างยิ่ง จึงขอให้คณะกรรมาธิการฯได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และหาผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ต่อไป
ขณะที่นายสมัคร กล่าวว่า จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมคณะกรรมาธิการภายในสัปดาห์นี้และจะมอบให้อนุกรรมาธิการการตำรวจที่มีพล.ต.อ.อำนวย เพชรศิริ ส.ว.สรรหา เป็นประธานดำเนินการสอบสวนต่อไป ยืนยันว่าคณะกรรมาธิการจะทำงานอย่างเต็มที่