ศาลอาญา รับคำฟ้องของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ส่งทนายความยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91, 326, 328 และ 332 และนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์วันที่ 24 พ.ค.นี้ เวลา 09.00 น.
ทั้งนี้ตามคำฟ้องสรุปได้ว่าเมื่อวันที่ 14 -17 มี.ค.53 ช่วงเวลา 20.00 - 22.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะจำเลยได้กล่าวปราศรัยด้วยเครื่องกระจายเสียงและทำการถ่ายทอดสดภาพและเสียงจากต่างประเทศผ่านระบบอินเตอร์เน็ต วีดีโอลิงค์ บนเวทีปราศรัยของกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงที่เชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ถ.ราชดำเนิน โดยมีข้อความกล่าวพาดพิงนายอภิสิทธิ์ ทำให้เสียชื่อเสียงและถูกดูหมิ่น ทำนองว่าโจทก์มีอาการป่วยทางโรคจิตเพราะชอบใช้ความรุนแรง ไม่มีสัมมาคารวะ อยู่ในสิ่งแวดล้อมของคนสีม่วง มีอารมณ์ก้าวร้าว ได้อำนาจมาจากการปล้นโดยการช่วยเหลือจากพวกอำมาตย์ รวมทั้งกล่าวหาว่าโจทก์สั่งการให้ทหาร ตำรวจสร้างสถานการณ์จลาจล เพื่อใช้กำลังปราบปรามประชาชนในเหตุการณ์เดือนเม.ย.52
ข้อความปราศรัยของจำเลยได้มีการถ่ายทอดผ่านโทรทัศน์ช่องพีเพิลแชนแนล วิทยุและโทรทัศน์ช่องอื่นอีกหลายสถานี ทำให้ประชาชนที่ฟังและชมการถ่ายทอดทั่วประเทศเข้าใจว่าโจทก์เป็นคนที่มีใจอำมหิต โหดเหี้ยม ซึ่งคำปราศรัยของจำเลยล้วนเป็นความเท็จทั้งสิ้น โดยคลิปเสียงของโจทก์ที่มีข้อความว่าโจทก์สั่งการให้ทหาร ตำรวจปราบปรามประชาชนในเดือนเม.ย.52 มีการพิสูจน์ชัดแล้วว่าเป็นการตัดต่อเสียง โดยกลุ่มเสื้อแดงนำคลิปเสียงไปเผยแพร่เพื่อมุ่งหวังปลุกระดมประชาชนที่ไม่ทราบความจริงให้เกิดความเกลียดชังต่อโจทก์
ท้ายคำฟ้อง โจทก์ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมาย และให้จำเลยลงโฆษณาคำพิพากษาของศาลทั้งฉบับในหนังสือพิมพ์รายวัน 9 ฉบับ ติดต่อกันเป็นเวลา 15 วัน ในหน้าข่าวปกติและขอให้ศาลนับโทษจำเลยต่อจากคดีอาญาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษกด้วย
โดยศาลรับไว้เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.1074 / 2553 เพื่อไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ในวันที่ 24 พ.ค. เวลา 09.00 น.
ด้านนายไพบูลย์ โพธิ์น้อย ทนายความที่รับมอบอำนาจ กล่าวว่า คดีนี้นายกรัฐมนตรี ไม่ได้มอบอำนาจให้บุคคลใดฟ้องคดีแทน ดังนั้นเมื่อมีการไต่สวนมูลฟ้อง นายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาเบิกความด้วยตนเอง