นายมนตรี โสคติยานุรักษ์ ผู้อำนวยการหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต คณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(MPA NIDA)เสนอแนะให้รัฐบาลใช้กระบวนการทางรัฐสภาในการหาทางออกต่อปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ซึ่งมีแนวทางทั้ง การยุบสภา การเปลี่ยนขั้วทางการเมือง หรือการจัดตั้งรัฐบาลสมานฉันท์ ซึ่งถือเป็นกรอบกติกาตามระบอบประชาธิปไตยที่สังคมให้การยอมรับได้ จึงไม่ส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุน และการท่องเที่ยวของไทย
แต่โดยส่วนตัวมองว่าการจัดตั้งรัฐบาลสมานฉันท์เป็นทางออกที่นุ่มนวลที่สุด โดยเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมในการออกกฎกติกาเพื่อแก้ไขความขัดแย้งจนเป็นที่ยอมรับ ก่อนจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ จะเป็นหนทางที่สร้างบรรยากาศการลงทุนและความเชื่อมั่นให้กับภาคเอกชนได้มากที่สุด
“การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าวิธีใด หากอยู่ในกรอบกติกาของระบอบประชาธิปไตย จะไม่ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนของไทย เพราะนักลงทุนมีความเข้าใจและยอมรับการเปลี่ยนแปลงตามระบอบประชาธิปไตย แต่หากมีการใช้ความรุนแรงเกิดขึ้น การเรียกคืนความเชื่อมั่นให้ต่างชาติกลับมาลงทุนในไทยอีกครั้งต้องใช้เวลานาน กว่าที่นักลงทุนต่างชาติจะกลับมามีความมั่นใจลงทุนและท่องเที่ยวในไทยอีกครั้ง" นายมนตรี กล่าว
นายมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ภาคเอกชนและนักลงทุนเป็นห่วงต่อสถานการณ์บ้านเมืองที่ยังไม่มีทางออกของปัญหาที่ชัดเจนว่าจะสามารถลดความขัดแย้งที่เกิดขึ้นได้อย่างไร แม้ว่าขณะนี้ยังไม่มีความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากการชุมนุมก็ตาม แต่การทำงานของรัฐบาลก็มีอุปสรรค ไม่สามารถบริหารประเทศหรือแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อยากให้รัฐบาลคำนึงถึงประเด็นทางเศรษฐกิจเป็นหลัก เนื่องจากในปัจจุบันนี้ปัญหาเศรษฐกิจยังคงเป็นปัญหาใหญ่สำหรับประเทศต่างๆ ทั่วโลก การฟื้นตัวยังไม่แข็งแรงเพียงพอที่จะปล่อยให้เดินหน้าได้โดยไม่ต้องใช้ความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการ อีกทั้งเศรษฐกิจของประเทศไทยยังต้องพึ่งพาต่างประเทศในสัดส่วนที่สูง ดังนั้น เรื่องความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติจึงมีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย