ศอ.รส.วางมาตรการรักษาความปลอดภัยรัฐสภาพรุ่งนี้ ปิดถนนลดการเผชิญหน้าผู้ชุมนุม

ข่าวการเมือง Tuesday March 23, 2010 17:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) แถลงผลการประชุมว่า ที่ประชุมหารือเรื่องจัดเตรียมพื้นที่เพื่อรักษาความปลอดภัยการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันพรุ่งนี้ เพื่อลดการเผชิญหน้าระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับกลุ่มผู้ชุมนุม จึงต้องประกาศข้อกฎหมา และเงื่อนไขเพิ่มเติมในการใช้ถนนในเส้นทางต่าง ๆ

ทั้งนี้ ตั้งแต่เวลา 05.00 น.วันนี้ (23 มี.ค.) ได้ปิดเส้นทางถนนอู่ทองใน ตั้งแต่แยกอู่ทองใน ถึงลานพระบรมรูปทรงม้า และถนนพิชัย ตั้งแต่แยกขัตติยานี ถึงแยกอู่ทองใน

ส่วนถนนราชวิถี ตั้งแต่แยกการเรือน ถึงแยกอุทัย และถนนพระรามที่ 5 ตั้งแต่แยกสุโขทัย ถึงแยกวัดเบจมบพิตร ตั้งแต่เวลา 00.00 -15.00 น. เปิดเฉพาะขาเข้า และหลังจากเวลา 15.00 -00.00 น.เปิดเฉพาะขาออก สำหรับประชาชนที่มีสถานที่ทำงานบ้านพักอาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่จะพิจารณาเป็นกรณีไป ส่วนกำลังที่ใช้รักษาความปลอดภัยที่รัฐสภา ส่วนหนึ่งเป็นกำลังที่เคยประจำอยู่ใน ร.11 รอ. อีกส่วนจะเป็นกำลังของกองร้อยรักษาความสงบที่กระจายไปในพื้นที่ต่าง ๆ

"ทั้งนี้ เป็นมาตรการที่ป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น ดีกว่าให้เกิดปัญหาแล้วจึงแก้ไข เชื่อมั่นว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะปฏิบัติตามกฎหมาย" โฆษก ศอ.รส. กล่าว

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ในการจัดกำลังรักษาความปลอดภัยที่รัฐสภาจะมี พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ มั่นใจว่าดูแลความปลอดภัยได้ แต่หากมีการปิดล้อมก็มีคำพิพากษาศาลปกครองระบุแล้วว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมาย หากฝ่าฝืนต้องดำเนินการตามลำดับขั้น ตั้งแต่ชี้แจง การใช้น้ำ เครื่องเสียงกำลังสูง แก๊สน้ำตา กระบอง

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ที่รักษาความปลอดภัยที่ประชิดอยู่กับผู้ชุมนุมจะไม่พกอาวุธ แต่เจ้าหน้าที่ที่รักษาสถานที่ราชการชั้นในต้องพกพาอาวุธ แต่ ศอ.รส.ยืนยันว่า ไม่มีความคิดที่จะใช้กำลังสลายการชุมนุม

อย่างไรก็ตาม คงไม่ได้เตรียมแผนใช้เฮลิคอปเตอร์รับนายกรัฐมนตรีกรณีเกิดการปิดล้อมสภาฯ เพราะพื้นที่ดังกล่าวแคบมาก

“ขอยืนยันว่า ศอ.รส. ไม่ใช่คู่กรณีฝ่ายใด เราเป็นกลไกรัฐที่จะช่วยดูแลความปลอดภัยให้กับสังคม ประชาชน ผู้ชุมนุม เราพร้อมสนับสนุนภารกิจทุกรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคอื่นที่มาจากการเลือกตั้ง เราพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด สามารถบริหารบ้านเมืองแล้วเดินไปได้"

ส่วนคดียิงจรวดอาร์พีจี เข้าไปในกระทรวงกลาโหม และมีข่าวว่าเป็นฝีมือของทหารในภาคตะวันออกนั้น พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้รายงานในที่ประชุม แต่จะเป็นใคร หน่วยต้นสังกัดไม่มีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้ เป็นเรื่องตัวบุคคล ถ้าได้ตัว ตำรวจจะนำเรื่องราวทั้งหมดมาเปิดเผย ซึ่งผู้บัญชาการทหารบกไม่ได้กังวลในเรื่องนี้ หากหาตัวคนร้ายได้เร็วเท่าใดยิ่งเป็นเรื่องดี จะเป็นทหาร หรือ ตำรวจ ล้วนเป็นกำลังพลที่แตกแถวทั้งสิ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ