นพ.เหวง โตจิราการ หนึ่งในแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.แดงทั้งแผ่นดิน) ระบุ นปช.จะไม่เคลื่อนกลุ่มผู้ชุมนุมไปปิดล้อมอาคารรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ที่จะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร แต่เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่นำรั้วลวดหนามและแท่งปูนปิดกั้นถนนออก เพื่อให้ประชาชนได้เดินทางสัญจรไปมาตามปกติ
ทั้งนี้ ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย(ศอ.รส.) ได้ออกประกาศปิดเส้นทางจราจรโดยรอบอาคารรัฐสภารวม 8 เส้นทาง และห้ามบุคคลที่มีพฤติการณ์อันจะก่อให้เกิดความไม่สงบเข้า-ออกบริเวณรัฐสภา เพื่อรองรับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 24-25 มี.ค.นี้ โดยห้ามผ่าน 8 เส้นทาง ประกอบด้วย ถนนนครราชสีมา ตั้งแต่แยกกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ถึงแยกสวนรื่นฤดี, ถนนราชวิถี ตั้งแต่แยกการเรือนถึงแยกอุทัย, ถนนพระราม 5 ตั้งแต่แยกสุโขทัยถึงแยกวัดเบญจมบพิตร, ถนนศรีอยุธยา ตั้งแต่แยกกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ถึงแยกเสาวนีย์,
ถนนอู่ทองใน ตั้งแต่แยกพระรูปรัชกาลที่ 5 ถึงแยกอู่ทองใน, ถนนสวรรคโลก ตั้งแต่แยกเสาวนีย์ถึงแยกสวรรคโลก, ถนนสุโขทัย ตั้งแต่แยกสวรรคโลกถึงท่าน้ำสามเสน และถนนพิชัย ตั้งแต่แยกขัตติยานีถึงแยกอู่ทองใน
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่ม นปช. กล่าวว่า กรณีที่มีการนำรั้วลวดหนามและแท่งซีเมนต์ปิดกั้นทางเข้า-ออกรัฐสภา บริเวณถนนอู่ทองใน เป็นมาตรการคล้ายกับที่เคยเกิดขึ้นเมื่อเดือน เม.ย.52 ที่รัฐบาลทยอยปิดกั้นพื้นที่ชุมนุมทุกด้านก่อนจะสั่งสลายการชุมนุม โดยตนเองจะนำคนเข้าไปรื้อถอนหากเป็นอุปสรรคต่อการชุมนุมของคนเสื้อแดงในพื้นที่ปัจจุบัน และจะใช้สิทธิในการเป็น ส.ส.เข้าไปสอบถามเรื่องดังกล่าวในที่ประชุมสภาฯวันพรุ่งนี้(24 มี.ค.)
กรณีที่มีผู้ก่อเหตุยิงระเบิดอาร์พีจีเข้าไปตกหลังกระทรวงกลาโหมนั้น ด้านการข่าวของคนเสื้อแดงตรวจสอบพบว่ารถกระบะวีโก้ที่ผู้ก่อเหตุจอดทิ้งไว้มีเจ้าของคนล่าสุดเป็นนายตำรวจสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยนำรถดังกล่าวมาจาก จ.พัทลุง จึงเชื่อได้ว่าการก่อเหตุดังกล่าวเป็นการสร้างสถานการณ์โดยฝ่ายรัฐบาล ดังนั้นรัฐบาลจะต้องเร่งทำความกระจ่างในเรื่องนี้
สำหรับกระบวนการเจรจาระหว่างรัฐบาลและคนเสื้อแดง นายจตุพร ย้ำว่า การเจรจาจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นผู้มาเจรจาด้วยตัวเองเท่านั้น โดยคู่เจรจาจะมีเพียงคนเดียว คือ นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำกลุ่ม นปช.