(เพิ่มเติม) เอกชนหวั่นม็อบเสื้อแดงชุมนุมยืดเยื้อส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ข่าวการเมือง Tuesday March 23, 2010 17:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ผู้ประกอบการภาคเอกชนระบุสถานการณ์ทางการเมืองอันเนื่องมาจากการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.แดงทั้งแผ่นดิน) ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ หากยังยืดเยื้อต่อไปแม้จะไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงก็ตาม โดยเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหันหน้าร่วมกันหาแนวทางคลี่คลายปัญหา

"ปัญหาสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศได้ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจไทยอย่างต่อเนื่องในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา และหากการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงยืดเยื้อขึ้นก็จะยิ่งส่งผลกระทบอย่างเห็นได้ชัดมากขึ้น" นายดุสิต นนทนาคร ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าว

ทั้งนี้ หอการค้าไทยต้องการให้ทุกฝ่ายหาทางออกร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใดก็ตาม เพราะจะช่วยให้ไม่เกิดผลกระทบต่อภาคเอกชนที่จะเป็นผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้ฟื้นตัวได้อีกทางหนึ่ง

นายดุสิต กล่าวว่า ความขัดแย้งทางการเมืองในขณะนี้ส่งผลกระทบถึงภาคธุรกิจท่องเที่ยวแล้ว เพราะมีข้อมูลระบุชัดว่าห้องพักของโรงแรมในเกาะรัตนโกสินทร์จำนวน 6,000 ห้อง ถูกยกเลิกแล้วมากกว่าครึ่ง ส่งผลต่อการจ้างงานของแรงงานในพื้นที่ดังกล่าว และหากปล่อยให้สถานการณ์ยืดเยื้อต่อไป ภาคธุรกิจในส่วนอื่นๆ จะได้รับผลกระทบแน่นอน โดยเฉพาะการลงทุนจากต่างประเทศ ส่วนการส่งออก จะได้รับผลกระทบชัดเจนในไตรมาส 3

"บ้านเมืองเป็นแบบนี้ ความอ่อนแอก็เกิดขึ้น เอกชนต้องช่วยเหลือตัวเองมาตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมาบอกได้เพียงว่า เราปราชัยแล้ว อยากให้ยุติปัญหาโดยเร็ว แต่จะยุติอย่างไร เราเป็นฝ่ายเศรษฐกิจไม่รู้เรื่องการเมือง แต่ถ้าการเมืองเห็นว่าวิธีใดดี ก็อยากให้เร่งทำ อยากให้ยุติโดยเร็ว อย่าให้ยืดเยื้อ" นายดุสิตกล่าว

นายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า ขณะนี้ภาคการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบมากที่สุด แต่สถานการณ์เปลี่ยนแปลงวันต่อวัน ทำให้ประเมินผลกระทบยาก ส่วนการส่งออกยังไม่ได้รับผลกระทบ การสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศยังมีเข้ามาเป็นปกติ

นอกจากนี้หากให้ประเมินระหว่างปัจจัยการเมือง และปัญหาค่าเงินบาทแข็งค่า เห็นว่าปัญหาการเมืองจะกระทบกับธุรกิจมากกว่า เพราะเรื่องค่าเงินบาทนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดูแลอยู่แล้วในระดับหนึ่ง

ด้านนายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า กรณีที่กลุ่ม นปช.นัดรวมพลเพื่อเคลื่อนไหวในกรุงเทพฯ อีกครั้งในวันที่ 27 มี.ค.นี้ถือเป็นเรื่องที่สามารถดำเนินการได้หากไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน และไม่เป็นการกีดขวางการจราจร ซึ่งเท่าที่ประเมินสถานการณ์เมื่อวันเสาร์ที่ 20 มี.ค.ผ่านมานั้นเป็นสิ่งที่คนกรุงเทพฯ รับได้ เพราะไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนมีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์การชุมนุม และไม่อยากเห็นความรุนแรง แม้การชุมนุมของกลุ่ม นปช.ในขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรม แต่ต้องยอมรับว่ามีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวบ้าง ทำให้ต่างชาติเลื่อนหรือชะลอการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย

ขณะที่นายอดิศักดิ์ โรหิตศุน รองประธาน ส.อ.ท.กล่าวว่า ต้องการให้ทั้งสองฝ่ายเจรจากัน เนื่องจากปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้กระทบต่อทุกฝ่าย แต่จะมีผลมากน้อยเพียงใดต้องขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของการชุมนุม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ