นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน แม้ล่าสุดจะเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดป่วนเมือง เนื่องจากเห็นว่ารัฐบาลยังสามารถควบคุมดูแลสถานการณ์ทั่วไปให้อยู่ในความสงบเรียบร้อยได้
"ยังไม่ถึงขนาดนั้น ผมก็ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจระดมทีมสืบสวนสอบสวนหาผู้กระทำผิดให้ได้" นายสุเทพ กล่าว
เมื่อคืนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 20.00 น.เกิดเหตุระเบิด 2 จุด ที่บริเวณหน้าศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรี ห่างจากจุดทหารตั้งด่านเพียง 20 เมตร และในเวลาไล่เลี่ยได้เกิดระเบิดหน้ากรมบังคับคดี ย่านบางขุนนนท์ แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
ส่วนกรณีที่มีกลุ่ม ส.ว.ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลสั่งถอนกำลังตำรวจ-ทหาร และรื้อบังเกอร์ออกจากบริเวณโดยรอบรัฐสภาเพื่อความสง่างามนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า รัฐบาลจะพิจารณาความเหมาะสมหากสถานการณ์คลี่คลายลง แต่สาเหตุที่ต้องดำเนินการป้องกันเช่นนี้ไว้เพราะต้องการให้ฝ่ายนิติบัญญัติสามารถเดินหน้าทำงานต่อไปได้
"ผมเห็นว่าบุคคลเหล่านี้มีความตั้งใจที่จะก่อวินาศกรรม ผมถึงได้วางกำลังกระจายไปทั่วกรุงเทพฯ แต่เขาเลือกก่อเหตุในที่ที่เราไปไม่ถึง ก็ต้องปรับปรุงแผนการทำงานต่อไปเพื่อลดโอกาสที่คนเหล่านี้จะก่อเหตุให้เหลือน้อยที่สุด และผมต้องเพิ่มมาตรการมากขึ้น ยังมั่นใจว่ายังสามารถรักษาสถานการณ์ในขณะนี้ไว้ได้ ให้เสียหายน้อยที่สุด" นายสุเทพ กล่าว
รองนายกรัฐมนตรี ยังมั่นใจว่า การที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย จะเดินสายไปหารือกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลนั้นจะไม่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง เพราะการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลยังเป็นไปด้วยดี
ด้านนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วที่รัฐบาลเตรียมการป้องกันไม่ให้มีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับการประชุมของรัฐสภา ไม่อยากให้มองเพียงเรื่องของความสง่างามอย่างเดียว หากรัฐบาลไม่ดำเนินการป้องกันใดๆ ก็อาจถูกต่อว่าในภายหลัง
"ถ้าอันนี้ก็ไม่เอา อันโน้นก็ไม่เอา เวลาเขามาล้อมสภาก็หนีกันหัวซุกหัวซุน เขาก็จะด่ารัฐบาลว่าไม่ดูแล" นายไตรรงค์ กล่าว