นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ควบคุมในการชุมนุมในวันที่ 27 มี.ค.และแม้ล่าสุดจะเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดป่วนเมือง เพราะสถานการณ์ยังไม่ถึงขนาดนั้น โดยขณะนี้ยังไม่ได้ประเมินสถานการณ์แต่วางมาตราการรับมือเอาไว้แล้ว เนื่องจากเห็นว่ารัฐบาลยังสามารถควบคุมดูแลสถานการณ์ทั่วไปให้อยู่ในความสงบเรียบร้อยได้
"ยังไม่ถึงขนาดนั้น ผมก็ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจระดมทีมสืบสวนสอบสวนหาผู้กระทำผิดให้ได้" นายสุเทพ กล่าว
เมื่อคืนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 20.00 น.เกิดเหตุระเบิด 2 จุด ที่บริเวณหน้าศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรี ห่างจากจุดทหารตั้งด่านเพียง 20 เมตร และในเวลาไล่เลี่ยได้เกิดระเบิดหน้ากรมบังคับคดี ย่านบางขุนนนท์ แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
นายสุเทพ กล่าวว่า การข่าวระบุว่าคนพวกนี้มีเป้าหมายก่อวินาศกรรมและก่อความไม่สงบด้วยวิธีต่างๆ จึงสั่งการให้ตรึงกำลังกระจายไปทั่วกรุงเทพฯ แต่เขาไปเลือกจังหวัดที่เราไปไม่ถึงคือ จ.นนทบุรี และพื้นที่ฝั่งธนบุรีบางพื้นที่ ซึ่งแผนการทำงานต่อไปพยายามลดโอกาสของคนเหล่านี้ที่จะก่อเหตุที่เหลือน้อยที่สุด จึงต้องเพิ่มมาตรการให้มากขึ้น เมื่อคืนนี้ก็สั่งให้ทุกหน่วยตื่นตัวและระมัดระวัง แต่จุดที่เกิดเหตุมันก็ไกลเราจริงๆ
"เราไม่สามารถตอบแทนเขาได้หรอกเพราะจะก่อเหตุที่ไหนอีก แต่เรารู้ว่าเป้าหมายคือก่อเหตุวินาศกรรมเพื่อทำให้เห็นว่ารัฐบาลไม่สามารถควบคุลมสถานการณ์ได้ และผมขอยืนยันว่ากับประชาชนว่าเราสามารถควบคุลมสถานกการณ์และทำให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด ซึ่งผมต้องระวังทุกจังหวะอยู่แล้ว"
รองนายกฯ กล่าวต่อว่า ต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจระดมทีมเร่งลัดสืบสวนสอบสวนหาคนก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้ บางคดีก็ได้ตัวแล้ว จับก็แล้วก็มี ที่เหลือก็ต้องทำต่อไป อยากเรียกร้องให้ประชาชนให้ช่วยชี้เบาะแสด้วยอีกทาง ส่วนที่กระทรวงสาธารณสุขนั้นยังไม่ได้รับความคืบหน้า ส่วนกระทรวงกลาโหมคิดว่าเมื่อได้ตัวผู้ต้องหามาเดี๋ยวก็จะเห็นความชัดเจนว่าคนร้ายเชื่อมโยงกันหมด
ส่วนกรณีที่มีกลุ่ม ส.ว.ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลสั่งถอนกำลังตำรวจ-ทหาร และรื้อบังเกอร์ออกจากบริเวณโดยรอบรัฐสภาเพื่อความสง่างามนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า รัฐบาลจะพิจารณาความเหมาะสมหากสถานการณ์คลี่คลายลง แต่สาเหตุที่ต้องดำเนินการป้องกันเช่นนี้ไว้เพราะต้องการให้ฝ่ายนิติบัญญัติสามารถเดินหน้าทำงานต่อไปได้
"ผมเห็นว่าบุคคลเหล่านี้มีความตั้งใจที่จะก่อวินาศกรรม ผมถึงได้วางกำลังกระจายไปทั่วกรุงเทพฯ แต่เขาเลือกก่อเหตุในที่ที่เราไปไม่ถึง ก็ต้องปรับปรุงแผนการทำงานต่อไปเพื่อลดโอกาสที่คนเหล่านี้จะก่อเหตุให้เหลือน้อยที่สุด และผมต้องเพิ่มมาตรการมากขึ้น ยังมั่นใจว่ายังสามารถรักษาสถานการณ์ในขณะนี้ไว้ได้ ให้เสียหายน้อยที่สุด" นายสุเทพ กล่าว
รองนายกรัฐมนตรี ยังมั่นใจว่า การที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย จะเดินสายไปหารือกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลนั้นจะไม่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง เพราะการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลยังเป็นไปด้วยดี
ด้านนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วที่รัฐบาลเตรียมการป้องกันไม่ให้มีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับการประชุมของรัฐสภา ไม่อยากให้มองเพียงเรื่องของความสง่างามอย่างเดียว หากรัฐบาลไม่ดำเนินการป้องกันใดๆ ก็อาจถูกต่อว่าในภายหลัง
"ถ้าอันนี้ก็ไม่เอา อันโน้นก็ไม่เอา เวลาเขามาล้อมสภาก็หนีกันหัวซุกหัวซุน เขาก็จะด่ารัฐบาลว่าไม่ดูแล มีทหารมีตำรวจไว้ทำผีอะไร พอเขาทำก็บอกไม่สง่างาม คือทำอะไรก็ไม่ถูกใจสักอย่าง ซึ่งตนมองว่าอยู่กันหลายคนไม่ต้องคิดเหมือนกัน และมองว่าการทำอย่างนี้เหมาะสมแล้ว"นายไตรรงค์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม มองว่า การนำทหารมาอารักษ์ขาความปลอดภัยการประชุมสภาว่า มันสง่างามกว่าแต่ก่อน สีเหลืองมาล้อม ส.ส.ปีนรั่วกลับมันสง่างามหนือ หากมีแดงมาล้อม ส.ส.ต้องต้องปีนรั้วหรือไม่ ลักษณะการทำหน้าที่ของรัฐบาลถือว่าสง่างามแล้วสำหรับประเทศไทย