นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธไม่ทราบข้อเสนอของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้คืนเงินจากการอายัดไว้ 3 หมื่นล้านบาทแล้วปัญหาทุกอย่างจะจบ ซึ่งนายกรัฐมนตรีย้ำว่าสิ่งนี้คือปัญหาเพราะยังไม่ทราบข้อเรียกร้องชัดเจน จึงไม่สามารถนำไปสู่การวางกรอบเจรจากันได้
"ผมนึกว่าเป็นเรื่องการยุบสภา ทำไมกลายเป็นเรื่องของเงิน 3 หมื่นล้านไปได้ ผมยังไม่ทราบ แต่นี่คือปัญหาที่พูดกันตั้งแต่ต้นว่าข้อเรียกร้องมันเป็นข้อเรียกร้องที่แท้จริงหรือไม่" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยินดีที่จะพูดคุยโดยตรงกับแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดง แต่อยากให้แกนนำนปช. ช่วยแสดงความจริงใจที่จะเริ่มต้นการเจรจาด้วยการส่งตัวแทนมาพูดคุยถึงแนวทางที่จะปูทางไปสู่การยุบสภาก่อน ซึ่งหากคุยกันด้วยเหตุผลรัฐบาลก็ยินดี
พร้อมยอมรับว่าเป็นห่วงการชุมนุมใหญ่วันพรุ่งนี้(27 มี.ค.)ของกลุ่มเสื้อแดง เพราะยังไม่ทราบถึงแนวทางการเคลื่อนไหวที่ชัดเจน แต่รัฐบาลเองจะประสานขอความร่วมมือกับกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อจะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนและเพื่อความปลอดภัยของผู้ชุมนุมเองด้วย
ส่วนการบริหารงานของรัฐบาลนั้น นายกรัฐมนตรี ยังมั่นใจว่าจะพยายามให้การทำงานของรัฐบาลกลับสู่ภาวะปกติได้ แต่จำเป็นต้องใช้เวลา เนื่องจากความละเอียดอ่อนของสถานการณ์ในขณะนี้
สำหรับกรณีที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสหภาพรัฐสภานั้น หากกลุ่มผู้ชุมนุมบุกเข้าไปยังสถานที่จัดประชุมก็จะถือว่าเป็นความพ่ายแพ้ของทุกฝ่าย เพราะขณะนี้มีผู้เข้าร่วมประชุมมากกว่า 120 ประเทศได้ตอบรับเข้าร่วมประชุมในไทยแล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าต่างชาติยังเชื่อว่ารัฐบาลยังสามารถดูแลสถานการณ์ได้
"ถ้าเขาล้มการประชุม ก็จะเป็นการพ่ายแพ้ของทุกฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัญลักษณ์ประชาธิปไตย เพราะที่นั่น(การประชุมสหภาพรัฐสภา) ก็คือจุดศูนย์รวมประชาธิปไตยด้วย" นายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนกรณีที่แกนนำนปช.ประกาศว่าอาจจะย้ายที่ชุมนุมไปแถวราชประสงค์ หากรัฐบาลจะสลายการชุมนุมที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นความเข้าใจผิด เพราะรัฐบาลไม่มีแนวคิดที่จะสลายการชุมนุมแต่อย่างใด
ส่วนเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นถี่ตามสถานที่ราชการในช่วงนี้ นายกรัฐมนตรี ระบุว่าอยู่ในสถานที่ที่รัฐบาลประเมินไว้อยู่แล้วว่าจะตกเป็นสถานที่เป้าหมาย เพราะแต่ละสถานที่เป็นสัญลักษณ์ของกระบวนการยุติธรรม ซึ่งรัฐบาลยังเดินหน้าในการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดอย่างเต็มที่ต่อไป