นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) กล่าวว่า การเจรจากับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 2 ในช่วงเย็นวันนี้ จะเป็นการหาข้อสรุปครั้งสุดท้ายเกี่ยวกับข้อเรียกร้องของกลุ่มนปช.ให้นายกรัฐมนตรียุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนเพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่ โดยมองว่าเวลา 2 สัปดาห์ที่ยื่นคำขาดให้กับนายกรัฐมนตรีเมื่อวานนี้เพียงพอต่อการดำเนินการ เพราะรัฐบาลยังมีเวลาเตรียมจัดการเลือกตั้ง อีก 2 เดือน
พร้อมยืนยัน ไม่ว่าผลการเจรจาจะออกมาเป็นเช่นใด กลุ่ม นปช.ยังคงจุดยืนข้อเรียกร้องเดิม คือ การยุบสภาเท่านั้น หากการเจรจาไม่ประสบผลสำเร็จ กล่ม นปช.ก็จะเดินหน้าต่อสู้ด้วยการยกระดับมาตรการกดดันรัฐบาล ภายใต้แนวทางสันติวิธีเช่นเดิม
ด้านนายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านรายการโทรทัศน์ว่า ในวันนี้นายกรัฐมนตรีจะไปเจรจากับทางแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปช.) ตามที่ได้ตกลงกันไว้เมื่อวานนี้แน่นอน ซึ่งตามกำหนดนายกรัฐมนตรีจะเดินทางกลับประเทศไทย และมาร่วมประชุมในเวลา 18.00 น. แต่มีความเป็นไปได้ที่อาจจะเดินทางมาถึงเร็วกว่ากำหนด อย่างไรก็ตาม คงต้องประสานงานกันอีกครั้ง
สำหรับในการเจรจา ถือว่าได้ก้าวไปข้างหน้าบ้างแล้ว โดยการหารือเมื่อวานนี้ถือเป็นพัฒนาการ ทั้ง 2 ฝ่ายต่างก็มีจุดร่วมกันอยู่แล้วที่ต้องการพัฒนาประชาธิปไตยไทย ให้มีประสิทธิภาพประสิทธิผลมากขึ้น และไม่เกิดวิกฤติทางการเมืองขึ้นอีก
"การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ถือเป็นเรื่องปกติ การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น กฏเกณฑ์กติกามีอะไร ทำเมื่อไหร่ คิดว่าได้ก้าวไปข้างหน้าบ้างแล้ว" นายปณิธาน กล่าว
พร้อมระบุว่า อย่างไรก็ตามต้องอดทนและใจเย็น เพราะเป็นการเจรจาไม่ใช่การตกลง ต้องใช้เวลา อย่างในบางประเทศต้องใช้เวลานาน และต้องฟังเสียงสะท้อนของประชาชน และนานาชาติด้วย ซึ่งวันนี้ก็มีเสียงสะท้อนเข้ามามาก
"การพูดคุยทำให้ทราบที่มาที่ไป มุมมอง และสามารถต่อยอดไปได้"
นายปณิธาน กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญตั้งแต่เริ่มต้นเพื่อสร้างบรรยากาศที่ดี ผ่อนคลายความตึงเครียด ประชาชนได้รับประโยชน์ประเด็นการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง