นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า อยากให้บรรยากาศการเจรจารอบสองเป็นไปด้วยดี เพราะคนไทยทุกคนอยากให้บ้านเมืองมีทางออก การเจรจามีข้อยุติและจบลงด้วยดี และก็เห็นได้ว่าในส่วนของรัฐบาลไม่มีแรงกดดันใดๆ ทั้งสิ้น อำนาจเป็นของนายกรัฐมนตรี โดยได้รับความเห็นชอบจากทุกพรรคร่วมรัฐบาลที่ต้องการให้นายกฯ เข้าร่วมการเจรจา
แต่ส่วนแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)หากดูหลังการเจรจาแล้วจะเห็นว่าทำให้มวลชนมีปฏิกิริยา จึงเป็นหน้าที่ของแกนนำที่จะต้องทำความเข้าใจกับมวลชน ถ้าหากไม่สามารถควบคุมได้ก็ไม่ควรเป็นแกนนำในการชุมนุมอีกต่อไป
"อยากให้คนที่บอกว่าไม่เกี่ยวข้องและบอกว่าไม่ควรเอาเรื่องของตัวเองมาเกี่ยวข้องกับการเจรจา ถอยออกไปห่างๆ ไม่มีแม้เสียงโทร.จากแดนไกลมาบงการซึ่งจะทำให้การเจรจาล้มเหลวไป"นายเทพไท กล่าว
ส่วนกรณีที่นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกฯและอดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย เห็นว่ารัฐบาลควรยุบสภาในเดือน พ.ย.53 นั้น นายเทพไท กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้ปฏิเสธและก็มีข้อเสนอจากนักวิชาการ แต่ทั้งหมดก็มีการเสนอตั้งแต่สามเดือน สิ้นปี หรือต้นปีหน้า คิดว่าอยู่ที่ตารางหรือปฏิทินการทำงานทางการเมืองที่ทุกฝ่ายตกลงกัน