นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันนี้มีมติอนุมัติให้ขยายเวลาการบังคับใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในพื้นที่ กทม.และอีก 2 จังหวัด ตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค- 7 เม.ย. จากเดิมที่กำหนดสิ้นสุดวันที่ 30 มี.ค.53
พร้อมกันนี้ ครม.ยังเห็นชอบให้ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ในพื้นที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในระหว่างวันที่ 2-5 เม.ย. เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยในการจัดประชุมสุดยอดผู้นำลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ครั้งที่ 1
นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การบังคับใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ยังเป็นไปในพื้นที่เดิมคือ พื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ, จ.นนทบุรี 2 อำเภอ(อ.ปากเกร็ด อ.เมือง) และ จ.สมุทรปราการ(อ.บางพลี, อ.บางเสาธง, อ.บางบ่อ, อ.พระประแดง และ อ.เมือง) เนื่องจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) ได้รายงานต่อคณะรัฐมนตรีว่าเป็นเพราะสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงที่ยังคงยืดเยื้อ
ประกอบกับห้วงเวลาที่ผ่านมามีการก่อเหตุร้ายแรงหลายกลุ่ม ซึ่งมุ่งหวังจะสร้างความเสียหายและเพื่อต้องการให้สถานการณ์ลุกลามบานปลาย นอกจากนี้ วันที่ 30 มี.ค.-6 เม.ย.53 จะมีการจัดงานกาชาดประจำปี 53 ซึ่งอาจจะเป็นเป้าหมายของผู้ไม่หวังดีสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรงขึ้นได้
นายศุภชัย กล่าวด้วยว่า การประกาศใช้ พรบ.ความมั่นคงฯ ในช่วงระหว่างการจัดประชุมสุดยอดผู้นำลุ่มน้ำโขงตอนล่างนั้น ครอบคลุมพื้นที่ 2 ตำบลใน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และอีก 4 ตำบล ใน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยเว้นเขตพระราชฐานวังไกลกังวล