นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย(ศอ.รส.) ได้ส่งตัวแทนไปเจรจากับกลุ่มคนเสื้อแดงเพื่อขอให้ปรับลดพื้นที่การชุมนุมให้น้อยลง ภายหลังจากที่กลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มลดจำนวนลง ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกและบริหารจัดการจราจรให้ดีขึ้น
แต่ ศอ.รส.ยืนยันจะไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้าไปบุกรุกสถานที่ราชการ โดยเฉพาะพื้นที่ตั้งของหน่วยทหาร เช่น กรณีของกรมทหารราบที่ 11 ซึ่งได้กำหนดมาตรการขั้นเด็กขาดไว้ว่าหากบุกรุกเข้ามาก็จะประกาศใช้กฎอัยการศึกได้ทันที และในสัปดาห์ที่ผ่านมา ศอ.รส.ให้ความร่วมมือในการย้ายกำลังทหารออกจากบางพื้นที่ในกลุ่มที่ผู้ชุมนุมมีความไม่สบายใจไปแล้ว
ปัจจุบัน ศอ.รส. ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ราว 283 กองร้อยในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยภายใต้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในช่วงวันที่ 24-30 มี.ค.โดยยืนยันว่าสถานการณ์ในภาพรวมยังถือว่าสามารถดูแลได้ และจะมีการปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น รวมทั้งจัดกำลังอย่างเพียงพอทั้งตำรวจ, ทหาร และพลเรือน
นายปณิธาน กล่าวด้วยว่า สำหรับในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรสัปดาห์นี้ ศอ.รส.ประเมินว่าอาจไม่จำเป็นต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่ดูแลมากเท่าสัปดาห์ก่อน การวางกำลังอาจปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ ส่วนการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดอาวุธในการดูแลรักษาสถานที่ราชการนั้น ได้รับการชี้แจงว่าขณะนี้มีหลายเหตุการณ์พบว่ากลุ่มผู้ไม่หวังดีไม่เกรงกลัวต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งบางครั้งอาจเกิดการเผชิญหน้ากันได้ จึงจำเป็นต้องให้เจ้าหน้าที่ติดอาวุธได้
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวถึงการรักษาความปลอดภัยในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันพรุ่งนี้(31 มี.ค.) ว่ามีความเป็นไปได้ที่อาจไม่ต้องใช้กำลังทหารเข้าไปดูแลความปลอดภัยรอบบริเวณรัฐสภา แต่ทั้งนี้ จะขอรอประเมินสถานการณ์ล่าสุดในการประชุม ศอ.รส.คืนนี้ก่อน