ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย แถลงว่า การเจรจาระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดง โดยการเรียกร้องของ นปช.ที่ต้องการให้ยุบสภาถือเป็นกติกาของประชาธิปไตยไม่ถือเป็นการขับไล่รัฐบาล และหากรัฐบาลมีจิตใจที่เป็นประชาธิปไตยจริงอย่างที่พูดก็ควรจะยุบสภา เพราะนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เคยประเมินว่าถ้าเลือกตั้งใหม่จะได้ส.ส.ถึง 280 ที่นั่ง ดังนั้นจึงไม่มีเหตุที่ต้องกลัวการยุบสภา
ส่วนที่บอกว่าจะมาทำข้อตกลงเพื่อให้ได้ข้อยุตินั้นคงต้องไปถามนายกรัฐมนตรีว่าจะมาตกลงอะไรกับพวกตน เพราะพวกตนไม่ยอมรับรัฐธรรมนูญปี 50 อยู่แล้ว ส่วนที่บอกว่าจะต้องทำประชามติถามประชาชนเรื่องแก้รัฐธรรมนูญก่อนก็ฟังไม่ขึ้น เพราะตอนที่ทำประชามติรับรัฐธรรมนูญฉบับปี 50 ก็ได้บอกว่าให้รับไปก่อนแล้วมาแก้ไขทีหลัง ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นต้องเสียงบประมาณอีก ส่วนประเด็นที่อ้างว่าจะยุบเมื่อเศรษฐกิจดีขึ้นก็ฟังไม่ขึ้นเช่นกัน
ร.ต.อ.เฉลิม ยังขอท้านายอภิสิทธิ์ โดยให้ใช้เวลา 1 ชั่วโมงมาดวลกันว่าการแก้รัฐธรรมนูญควรเป็นรัฐบาลถาวรที่จะมาพูดกันในการเลือกตั้งครั้งหน้า ใครที่ได้เสียงข้างมากเข้ามาก็ให้แก้ไขปรับปรุงแล้วหาเสียงไปเลยว่าถ้าใครต้องการให้แก้รัฐธรรมนูญตามที่พรรครัฐบาลต้องการก็ให้เลือกพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคร่วม ถ้าใครต้องการให้นำรัฐธรรมนูญปี 40 มาใช้ให้เลือกพรรคเพื่อไทย
ส่วนการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้น ขอตั้งสมมติฐานว่านายอภิสิทธิ์ คงไม่ยอมยุบสภาตามข้อเรียกร้องของ นปช.จึงจะเสนอพรรคเพื่อไทยให้อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี 4 คน โดยจะกำหนดผู้ที่จะอภิปรายให้น้อยลงประมาณ 9 คน พร้อมฝากไปยังนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ว่าถ้าแน่จริงให้ยกคำร้องยุบพรรคประชาธิปัตย์ ก่อนที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะได้รู้ข้อแตกต่างระหว่างคดีพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์
สำหรับการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่วางไว้วันที่ 19 เม.ย. ซึ่งจะไปตรงกับช่วงการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงนั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ข้อเสนอดังกล่าวเป็นเพียงแนวคิดของตน ต้องหารือในที่ประชุมพรรคเพื่อไทยก่อน