รายงานข่าว ระบุว่า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีคำสั่งประกาศปิดทำการ ตั้งแต่เวลา 21.00 น. ของวันที่ 1 เม.ย. ถึงวันที่ 4 เม.ย. และจะเปิดทำการปกติในวันจันทร์ที่ 5 เม.ย. พร้อมปิดประตูทางเข้าออกทุกประตูและจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทุกจุด เพื่อป้องกันเหตุรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นหลังจากมีข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อชมพูที่นัดรวมตัวกันต่อต้านการชุมนุมของคนเสื้อแดง
ขณะเดียวกัน สายตรวจในพื้นที่ได้ขับรถตระเวนตรวจตรา เพื่อประเมินสถานการณ์โดยรอบมหาวิทยาลัย พร้อมกับ เพิ่มการตรวจพื้นที่ด้านใน โดยเฉพาะจุดเสี่ยง พร้อมกันนั้น ยังประสานมายังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทุกจุดทางวิทยุสื่อสารว่า ให้เฝ้าระวังและสังเกตบุคคลต้องสงสัย โดยเฉพาะกลุ่มคนเสื้อแดงและกลุ่มเสื้อสีชมพู ซึ่งจะไม่อนุญาตให้เข้ามาใช้พื้นที่ภายในมหาวิทยาลัยเด็ดขาด เพื่อป้องกันการปะทะและเหตุรุนแรง
ขณะที่กลุ่มเสื้อชมพูได้ประกาศจุดนัดชุมนุมใหม่ หลังจุฬาฯ ไม่ให้เข้าใช้สถานที่ โดยเปลี่ยนสถานที่จากเดิมหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ 2 รัชกาลภายในจุฬาฯ เป็นหน้าประตูมหาวิทยาลัยฝั่งสระน้ำ โดยอาจจะเคลื่อนขบวนไปยังสวนลุมพินี เพื่อทำกิจกรรมที่หน้าพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 แทน
นอกจากนี้ ในวันนี้ ผู้ประกอบการท่องเที่ยว ได้นัดรวมพลัง บริเวณด้านหน้าอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 ในเวลา 16.00 น.เพื่อแสดงท่าทีและเรียกร้องให้รัฐบาลและกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.แดงทั้งแผ่นดิน) ร่วมการหาทางออกเพื่อยุติความขัดแย้งและการชุมนุมโดยเร็วด้วย
อย่างไรก็ตาม แกนนำกลุ่ม นปช.แดงทั้งแผ่นดิน จะมีการหารือกันในเวลา 10.00 น.วันนี้เพื่อกำหนดท่าทีต่อความเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อชมพู
ด้าน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย(ศอ.รส.)กล่าวว่า ที่ประชุม ศอ.รส.ได้ปรับเปลี่ยนแผนการปฏิบัติงานและมีการจัดวางกำลัง โดยเน้นการป้องกันการก่อเหตุจากกลุ่มที่ไม่หวังดี ซึ่งในพื้นที่วงในใกล้กับกลุ่มผู้ชุมนุมจะใช้ตำรวจนอกเครื่องแบบในการลาดตระเวนการก่อเหตุรอบพื้นที่
ส่วนพื้นที่วงนอกจะใช้ตำรวจในเครื่องแบบดูแลตามจุดเสี่ยงต่างๆ ซึ่งมีการวางกำลังจุดละ 2-4 นาย พร้อมเพิ่มรถสายตรวจลาดตระเวนรอบๆพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าในรัศมี 500 เมตรจากบริเวณการชุมนุมจะไม่มีเจ้าหน้าที่ทหารประจำอยู่เพื่อให้ผู้ชุมนุมเกิดความสบายใจ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความคุ้นเคยกับผู้ชุมนุมมากกว่า
ทั้งนี้ ศอ.รส.ได้ขอความร่วมมือไปยังกลุ่ม นปช.ให้เคารพกติกา และการแสดงความคิดเห็นของบุคคลอื่นด้วย