กรุงเทพโพลล์ ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เปิดเผยผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์เรื่อง "นักเศรษฐศาสตร์ช่วยคิดฝ่าวิกฤติประเทศไทย" พบว่า นักเศรษฐศาสตร์ได้เสนอแนวทางให้รัฐบาลใช้การเจรจากับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ต่อไป แต่ควรกำหนดกรอบเวลาในการเจรจาที่ชัดเจนและประกาศให้ทุกฝ่ายรวมทั้งสาธารณชนรับรู้และเข้าใจ จากนั้นจึงยุบสภา รวมทั้งขอให้รัฐบาลอดทนต่อการยั่วยุของกลุ่มนปช.ด้วย
ส่วนแนวคิดเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาตินั้น นักเศรษฐศาสตร์ 54.7% ระบุว่าไม่เห็นด้วย เนื่องจากมองว่ารัฐบาลที่ตั้งขึ้นมาจะขาดเอกภาพ จะมีการขัดแย้งกันเองภายใน ไม่มีผู้นำที่ทุกฝ่ายยอมรับ พร้อมมองว่าเป็นการแก้ปัญหาไม่ตรงจุด เพราะปัญหาไม่ได้อยู่ที่ระบบแต่อยู่ที่ตัวบุคคลที่ไม่ยอมรับกติกาทางสังคม ซึ่งการมีรัฐบาลแห่งชาติจะบริหารประเทศได้ลำบาก ไม่ใช่วิถีแห่งประชาธิปไตย อีกทั้งรัฐบาลปัจจุบันยังสามารถทำงานได้
นอกจากนี้นักเศรษฐศาสตร์ 51.6% ยังมองว่าการปรับขึ้นของดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในช่วงการชุมนุมของกลุ่ม นปช.ว่าจะเป็นการปรับขึ้นเพื่อเก็งกำไรในระยะสั้น เพราะความเสี่ยงทางการเมืองยังมีอยู่ โดยคาดว่า SET Index ระดับสูงสุดของปีนี้จะอยู่ที่ 800-810 จุด
ส่วนปัญหาความเดือดร้อนของชาวนาจากราคาข้าวตกต่ำและชาวนาบางส่วนเรียกร้องให้นำระบบการรับจำนำกลับมาใช้อีกครั้งนั้น นักเศรษฐศาสตร์ 51.6% ยังคงสนับสนุนให้รัฐบาลใช้วิธีการประกันรายได้เกษตรกร เพราะเห็นว่ารัฐบาลจะมีรายจ่ายน้อยลงจากการนำเงินเข้าไปอุดหนุน ซึ่งลดการทุจริตลงได้ ขณะที่เกษตรกรจะมีหลักประกันรายได้ที่แน่นอน วางแผนการเพาะปลูกได้ อีกทั้งผลประโยชน์ยังครอบคลุมชาวนาได้มากกว่า
ผลสำรวจดังกล่าว มาจากความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์จากหน่วยงานด้านการวิเคราะห์วิจัยเศรษฐกิจระดับชั้นนำของประเทศ 22 แห่ง เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย, สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง, สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า, ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย เป็นต้น โดยสำรวจตั้งแต่ 25-30 มี.ค.53