กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดง ประกาศยกระดับเป็นกองทัพเสรีหากแกนนำทุกรุ่นถูกจับกุมตัว เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการกดดันให้นายกรัฐมนตรียุบสภา แต่ยังไม่ปิดประตูการเจรจากับรัฐบาล
แต่ ณ ขณะนี้ยังคงยืนยันที่จะปักหลักชุมนุมที่แยกราชประสงค์ต่อไป โดยจะแบ่งการดำเนินเป็น 2 ส่วน แกนนำ นปช.ส่วนแรกจะปักหลักอยู่ที่เวทีปราศรัยแยกราชประสงค์ เพื่อรอฟังคำสั่งศาลแพ่ง และท่าทีของรัฐบาล ขณะที่ด้านเวทีปราศรัยสะพานผ่านฟ้าลีลาศ แกนนำที่ดูแล คือ นายสุพร อัตถาวงศ์ และนายขวัญชัย ไพรพนา จะนำผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนไปที่หน้าสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)เพื่อให้เร่งรัดคดีเงินบริจาคของพรรคประชาธิปัต 258 ล้านบาท
"ตอนนี้มันเกินเลยความกลัวไปแล้ว ถ้าแกนนำถูกจับ ก็จะมีแกนนำรุ่น 2 และรุ่น 3 ตามมา แต่หากถูกจับอีก เสื้อแดงจะแปลงเป็นกองทัพเสรีทันที แล้วเดินหน้าต่อสู่ต่อไปเพื่อเป้าหมายเดียวคือการยุบสภา" นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช.ระบุ
"ทางแกนนำยังรอคำตอบจากรัฐบาล เราไม่ได้ปิดประตูเจรจา รัฐบาลจะเอายังไงบอกว่าเลยชัดๆ แล้วค่อยไปเจรจา...เราไม่มีข้อเสนอใด นอกจากยุบสภาใน 15 วัน ถ้ารัฐบาลมีข้อเสนออื่นก็บอกมา เราจะพิจารณา เพราะรัฐบาลอาจจะบอกยุบสภาใน 10 วันก็ได้" นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า กรณีที่รัฐบาลจะยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งเพื่อขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ราชประสงค์นั้น ทางกลุ่ม นปช.ได้ส่งทนายความไปรอที่ศาลฯ เพื่อยื่นคำร้องคัดค้านแล้ว หากศาลมีคำสั่งให้รื้อถอนก็จะอุทธรณ์คำสั่งตามแนวทางเดียวกับที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือกลุ่มเสื้อเหลืองเคยใช้เป็นแนวทางการต่อสู้
อย่างไรก็ดี หากศาลจะมีการออกหมายจับ 5 แกนนำ นปช. คือ นายวีระ มุสิกพงษ์, นายจตุพร พรหมพันธุ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นพ.เหวง โตจิราการ และนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรองนั้น แกนนำนปช.ทั้ง 5 คนก็จะแสดงตัวโดยเปิดเผย ไม่บิดพลิ้วหรือหลบหนี โดยยืนยันว่าจะใช้แนวทางการต่อสู้ตามขั้นตอนทางกฎหมาย
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง เตรียมส่งหน่วยอรินทราชเข้าจับตัวแกนนำ นปช.ในวันพรุ่งนี้(6 เม.ย.) นั้น ขอท้าว่าให้ดำเนินการทันทีโดยไม่ต้องรอเวลา ขณะที่การเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงที่อาจจะเข้าไปยังเส้นทางที่ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย(ศอ.รส.)ประกาศห้ามนั้น หากมีความจำเป็นจริงๆ ก็จะเดินทางไป โดยไม่เกรงกลัวต่อประกาศดังกล่าว
"ที่ผ่านมา ประชาชนได้รับผลกระทบจากความไม่เป็นประชาธิปไตยมาอย่างแสนสาหัส จึงจำเป็นต้องต่อสู้ด้วยวิธีการนี้ เพราะอาการรุนแรงเกินกว่าจะรักษาหายด้วยยาแก้ปวด มันถึงขั้นต้องผ่าตัดกันแล้ว" นายณัฐวุฒิ กล่าว
สำหรับการเคลื่อนไหวของภาคเอกชนตามที่คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) เตรียมออกแถลงการณ์เรียกร้องให้กลุ่มเสื้อแดงยุติการชุมนุมที่บริเวณแยกราชประสงค์ เพราะสร้างความเสียหายต่อธุรกิจการค้าในย่านนั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า องค์กรดังกล่าวไม่มีความเป็นกลาง เพราะเมื่อครั้งที่กลุ่มพันธมิตรฯ ชุมนุมก็ได้มีการลงโฆษณาเรียกร้องให้ล้มรัฐบาลชุดก่อนเพื่อจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปัตย์
แต่อย่างไรก็ดี กลุ่ม นปช.พร้อมรับฟังความเห็นผู้ประกอบการในละแวกนี้ ขอให้ส่งตัวแทนมาหารือกัน พร้อมระบุว่า ยินดีรับฟังข้อเสนอจากทุกองค์กร แต่อย่างสภาหอฯ ถือเป็นอีกข้างชัดเจนไปแล้ว
"สภาหอฯ ควรหุบปากแล้วนั่งเฉยๆ เพราะไม่มีความเป็นกลางทางการเมือง...วันนี้อยากเหลือเกินที่จะเห็นคนกลาง ขนาดองคมนตรียังกลับกลายเป็นหัวขบวนของอีกฝั่งไปแล้ว"
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. กล่าวว่า หมายจับแกนนำจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการต่อสู้ของกลุ่มเสื้อแดง เพราะไม่ว่ารัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร ทางกลุ่มเสื้อแดงก็จะแสดงให้เห็นว่าไม่ยอมรับรัฐบาลที่ใช้ 2 มาตรฐาน และขอเตือนการใช้วิธีสลายการชุมนุม เพราะหากรัฐบาลส่งกำลังล้อมจับผู้ชุมุนมก็จะมีหน่วยเคลื่อนที่เร็วของ นปช.เข้าไปช่วยเหลือในทันที