รายงานข่าว เปิดเผยว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)หนังสือมอบอำนาจให้พนักงานอัยการ ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งแล้วในเช้าวันนี้ เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งให้แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)ทั้ง 5 คน รวมทั้งกลุ่มผู้ชุมนุม พร้อมด้วยยานพาหนะ และทรัพย์สิน ออกจากพื้นที่บริเวณแยกราชประสงค์ และพื้นผิวการจราจรทั้ง 11 เส้นทาง ตามประกาศของศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยฉบับที่ 6 ซึ่งให้มีผลทันที
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลแพ่งว่าจะรับคำร้องหรือไม่
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า ทางอัยการได้ยื่นคำร้องศาลแพ่งเพื่อขอให้มีคำสั่งให้กลุ่มผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่บริเวณราชประสงค์แล้ว เนื่องจากการชุมนุมไม่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นการล่วงล้ำสิทธิเสรีภาพ ทำให้ประชาชนไม่สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ รัฐบาลจึงไปร้องต่อศาลเพื่อให้กลุ่มคนเสื้อแดงออกจากพื้นที่
"เราทำตามขั้นตอนของกฎหมายที่กำหนดไว้ ขณะนี้ฝ่ายอัยการได้รับมอบหมายให้ไปยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งขอรับการคุ้มครองทางกฎหมาย เราจะดูว่าศาลวินิจฉัยหรือมีคำสั่งอย่างไรก็จะปฎิบัติไปตามกรณี"
อย่างไรก็ตาม นายสุเทพ ยังไม่ได้พูดว่าจะมีการออกหมายจับ 5 แกนนำนปช.หรือไม่ โดยขอให้เป็นไปตามขั้นตอน และต้องดูคำวินิจฉัยของศาลด้วยว่าจะให้ดำเนินการอย่างไร
ส่วนกรณีการเรียกร้องค่าเสียหายนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นเรื่องของทางเอกชนที่จะไปดำเนินการ แต่ทางรัฐบาลก็พร้อมจะยื่นคำร้องภาคเอกชนต่อศาล หากมีการร้องขอมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงสายที่ผ่านมา นายสุเทพ ไปตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจพนักงานของสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลจะปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยให้ฝ่ายจัดการบริหารความปลอดภัยทำแผนเพิ่มความเข้มข้นในการระมัดระวังมากยิ่งขึ้น รวมทั้งจะมีการประสานไปยัง กทม. ดูแลปรับปริมาณแสงสว่างบริเวณสถานีโทรทัศน์ต่างๆเป็นพิเศษ พร้อมเพิ่มกล้องวงจรปิดที่มีคุณภาพ
ทั้งนี้ จะมอบหมายให้ทางผู้บัญชาการตำรวจนครบาลภาค 2 และผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เป็นผู้ดูแลส่วนนี้ทั้งหมด และให้มีการรายงานผลในการประชุม ศอ.รส.ช่วงเย็นวันนี้