ที่ประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) ระบุการยุบสภาไม่ใช่หนทางขจัดปัญหาความขัดแย้งในสังคมอย่างแท้จริง เพราะปัญหาหยั่งรากลึกเกินกว่าความขัดแย้งระหว่างนักการเมือง หรือพรรคการเมือง
"ที่ประชุมฯ มีความเห็นสอดคล้องกันว่ากระแสความขัดแย้งขณะนี้เกินเลยกว่าจะพูดถึงปัญหาอื่นๆ และกลายเป็นความขัดแย้งไปสู่รากลึก สังคมจึงต้องตั้งหลักให้ดีในการขจัดความขัดแย้งนี้...ฉะนั้นการยุบสภาจึงไม่ใช่หนทางที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาของสังคม ทุกคนจึงควรกลับมาช่วยกันหาวิธีคิดว่าจะยุติปัญหานี้ได้อย่างไร อาจจะต้องมีการปฏิรูปสังคมใหม่อีกครั้ง" นายวิทยา แก้วภราดัย ประธานวิปรัฐบาล กล่าว
ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า หากนักการเมืองหรือพรรคการเมืองขัดแย้งจะแก้ไขได้ไม่ยาก แต่ความขัดแย้งขณะนี้ได้ลงไปสู่รากลึกของสังคม ความคิดของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ต้องการให้ยุบสภาภายในเวลา 15 วัน เป็นเพียงความคิดของคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น แต่จากการให้ ส.ส.ลงพื้นที่สำรวจความต้องการของประชาชนทั่วประเทศแล้วทำให้รู้ว่า หากยุบสภาขณะนี้จะยิ่งเพิ่มดีกรีของความขัดแย้งให้มากขึ้น
"(แนวทางแก้ไขปัญหา)ยังไม่มี เพียงแต่เสนอว่าต้องมีการปฏิรูปสังคมอีกครั้ง มิใช่หยิบยกเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญขึ้นมาพิจารณาเท่านั้น เพราะไม่ช่วยให้จิตใจของผู้ชุมนุมสงบลงได้" นายวิทยา กล่าว
ประธานวิปรับบาล ยืนยันว่า พรรคเพื่อแผ่นดินยังมีความเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญสอดคล้องกับพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ ดดยระบุว่ายังไม่รู่เรื่องที่พรรคเพื่อแผ่นดินออกแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยกับการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ด้านนายวิรัตน์ กัลยาศิริ รองประธานวิปรัฐบาล และทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ ยอมรับว่า แม้ที่ผ่านมา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จะไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อกลุ่มคนเสื้อแดงเรียกร้องให้ยุบสภา ทางพรรคประชาธิปัตย์จึงได้เสนอว่าการยุบสภาไม่ใช่ทางออก เพราะหากมีการเลือกตั้งใหม่ก็จะมีม็อบออกมาต่อต้านไม่จบ จึงได้หยิบยกเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามที่คณะกรรมการสมานฉันท์ฯ ขึ้นมาพิจารณาอีกครั้ง