(เพิ่มเติม) ศอฉ.ย้ำจะเพิ่มมาตรการเบาไปหาหนักดูแลแยกราชประสงค์ ปฏิเสธประกาศเคอร์ฟิว

ข่าวการเมือง Thursday April 8, 2010 17:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) แถลงย้ำว่าจะใช้มาตรการขั้นเบาไปหาหนักในการเข้าควบคุมพื้นที่การชุมนุมให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด โดยไม่มีแนวคิดที่จะใช้ความรุนแรงปราบปรามผู้ชุมนุม พร้อมทั้งปฏิเสธข่าวลือที่ระบุว่าเตรียมจะประกาศเคอร์ฟิวคืนนี้ด้วย

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ. กล่าวถึงแนวทางในการปฏิบัติหลังการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินว่า ศอฉ.จะใช้ความพยายามในการเพิ่มแรงกดดันเข้าไปดำเนินการจากเบาไปหาหนัก และหากจำนวนคนที่มาชุมนุมลดน้อยลง ก็จะพร้อมจะเข้าไปจับตัวแกนนำฯ

ตามขั้นตอนแรก คือ 1.การควบคุมสถานีโทรทัศน์และสถานีวิทยุที่ให้ข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือนแก่ประชาชน 2.จัดตั้งจุดสกัดไม่ให้ประชาชนเข้ามาร่วมในพื้นที่ที่มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 3.ทำความเข้าใจให้ประชาชนรับทราบว่าการเดินทางชุมนุมถือว่าเป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย ซึ่งหลังจากสั่งปิดการออกอากาศ PTV ไปแล้วทำให้มีผู้มาร่วมชุมนุมลดลงมาก และ 4.จะออกหมายเรียก และหมายจับบุคคลที่ยุยงปลุกปั่นและบุกรุกสถานที่ราชการ

พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีแนวคิดสลายการชุมนุมหรือประกาศเคอร์ฟิวเพื่อไม่ให้ประชาชนออกจากบ้านแต่อย่างใด

"หลังจากประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีประชาชนคาดหวังว่าเจ้าหน้าที่รัฐจะจับกุมแกนนำ สลายการชุมนุมโดยเร็ว แต่ทางนายกฯ และรองนายกฯ มีความเป็นห่วงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน จึงมีแนวคิดในการดำเนินการจากเบาไปหาหนัก...เมื่อจำนวนคนลดน้อยลง คงน่าจะจับแกนนำได้ แต่ขณะนี้ยังให้เกียรติในการออกหมายเรียกก่อน ก่อนจะออกหมายจับต่อไป ซึ่งการจะจับแกนนำต้องดูองค์ประกอบ อารมณ์ของคนที่มาร่วมชุมนุมด้วย" พ.อ.สรรเสริญ กล่าว

ภายในช่วงเย็นวันนี้จะมีการออกหมายเรียกและหมายจับแกนนำนปช. ซึ่งน่าจะมีมากกว่า 10 คน พร้อมมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารจะสามารถสกัดกั้นการเดินทางเข้ามาชุมนุมในพื้นที่ กทม.ได้หลังจากที่แกนนำประกาศนัดชุมนุมใหญ่วันพรุ่งนี้(9 เม.ย.)

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ในเบื้องต้น ศอฉ.ประสบความสำเร็จในการดูแลการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของสื่อ โดยได้มีการปิดสื่อที่มีการบิดเบือนข่าวสาร ยั่วยุ ปลุกปั่นไปแล้วหลายสื่อ เริ่มจากสถานีโทรทัศน์ PTV และสถานีวิทยุชุมชน รวมไปถึงสื่อที่เผยแพร่ผ่านอินเตอร์เน็ต และกำลังพิจารณาถึงสื่อสิ่งพิมพ์ที่มีพฤติกรรมดังกล่าวด้วย

ทั้งนี้ ศอฉ.คงไม่มีการคืนสัญญาณช่อง PTV ตามที่แกนนำ นปช.ขีดเส้นไว้ว่าต้องคืนสัญญาณภายในเย็นนี้ เพราะ ศอฉ.เข้าไปควบคุมการออกอากาศ แต่ไม่ได้เข้าไปยึดสถานีหรือยึดคลื่นแต่อย่างใด

นอกจากนั้น ยังได้มีการสกัดกั้นการนำคนจากต่างจังหวัดเข้ามาร่วมชุมนุมในกรุงเทพฯ ส่งผลให้ขณะนี้จำนวนผู้ชุมนุมได้ลดลงไปมากแล้ว โดยประเมินว่าผู้ชุมนุมที่แยกราชประสงค์มีจำนวนไม่เกิน 3 พันคน และที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศจำนวนไม่เกิน 2.5 พันคน

สำหรับการชุมนุมที่ศาลากลางจังหวัดแต่ละจังหวัดนั้น รัฐบาลมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ 12 จังหวัด และภาคอีสาน 18 จังหวัดที่นัดมาชุมนุมที่ศาลากลางฯ ซึ่งจำนวนผู้ชุมนุมในแต่ละพื้นที่มีเพียง 50-200 คนเท่านั้น อาจมีเพียงเชียงใหม่ และขอนแก่น ที่อาจมีผู้ชุมนุมถึง 2 พันคน แต่ยังมั่นใจว่า กอ.รมน.ภาคจะสามารถดูแลได้

ด้านนายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยังมีแนวคิดจะเดินหน้าพูดคุยเจรจากับกลุ่มต่างๆ หลังจากที่สถานการณ์การชุมนุมคลี่คลายลงไปแล้ว โดยเบื้องต้นมีภาคประชาสังคมและนักวิชาการเสนอความคิดเห็นเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนายกรัฐมนตรียินดีรับฟังความคิดเห็นที่สร้างสรรค์ ซึ่งอาจรวมถึงกรณีที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ไปพูดคุยกับอดีตนายกรัฐมนตรีทั้ง 4 คนด้วย

พร้อมกันนี้โฆษกรัฐบาล ยังได้สื่อสารเป็นภาษาอังกฤษไปยังชาวต่างประเทศที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยและนักท่องเที่ยว โดยกล่าวขออภัยในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นจากการชุมนุม และเตือนไม่ให้เดินทางเข้าไปในสถานที่ชุมนุม พร้อมทั้งระบุว่ารัฐบาลจะรีบนำความสงบและสันติสุขกลับคืนมาโดยเร็วภายในไม่กี่วันข้างหน้านี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ