นักวิชาการและตัวแทนภาคประชาชน นำโดย นายเทพมนตรี ลิมปพยอม, นายมนต์ชัย ราบรื่นทวีสุข และ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ เข้าแสดงตนต่อนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ในการริเริ่มรวบรวมรายชื่อประชาชน 20,000 คน ตามรัฐธรรมนูญ 50 มาตรา 164 เพื่อถอดถอนส.ส.3 คน เนื่องจากมีพฤติกรรมส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
สำหรับ ส.ส.ทั้ง 3 คน ประกอบด้วย พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย, นายการุณ โหสกุล ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย และ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย
กรณีของ พ.อ.อภิวันท์ มีฐานะเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ได้ขึ้นปราศรัยบนเวทีกลุ่ม นปช.หลายครั้งในเดือน มี.ค.53 โดยใช้ถ้อยคำหยาบคาย ลามก กล่าวร้ายต่อบุคคลสำคัญอย่างจาบจ้วง และมีการบิดเบือนข้อเท็จจริง ส่งเสริมให้เกิดความขัดแย้งในสังคมมากขึ้นเพื่อประโยชน์ทางการเมืองโดยไม่คำนึงถึงสถานภาพความเป็น ส.ส.และมาตรฐานทางจริยธรรม
ทุกคนทราบว่า พ.อ.อภิวันท์ เป็นหนึ่งในแกนนำสำคัญของกลุ่ม นปช.จึงถือว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 122 ที่บัญญัติให้ ส.ส.และ ส.ว.ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ส่วนร่วมปราศจากการขัดกันแห่งผลประโยชน์ นอกจากนี้วันที่ 7 เม.ย.ยังสนับสนุนตัวแทนกลุ่ม นปช.บุกเข้าในอาคารรัฐสภา ผิดกฎหมายอาญาฐานบุกรุกสถานที่ราชการในเขตพระราชฐาน
ขณะที่นายการุณ เคยมีพฤติกรรมประทุษร้าย ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในรัฐสภามาแล้ว มีส่วนร่วมสนับสนุนตัวแทนคนเสื้อแดงบุกรุกเข้าไปในอาคารัฐสภาโดยมิชอบ และยุยงส่งเสริมให้คนเสื้อแดงที่เข้ามา ทำร้ายสารวัตรทหาร(สห.) และยึดอาวุธปืนของราชการอย่างอุกอาจโดยปราศจากอำนาจหน้าที่และเหตุอันควร เป็นความผิดกฎหมายอาญา
ส่วนนายจตุพร เป็นหนึ่งในแกนนำสำคัญของกลุ่ม นปช.ซึ่งได้เคลื่อนไหวจัดชุมนุมที่ส่อขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 122 โดยเมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้แถลงข่าวข่มขู่กลุ่มเสื้อชมพูที่นัดแสดงพลังวันที่ 2 เม.ย. ณ ลานพระบรมรูปสองรัชกาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จนต้องย้ายไปที่สวนลุมพินีซึ่งมีแนวโน้มความไม่ปลอดภัยสูงกว่า
"พฤติการณ์ดังกล่าวถือว่าขัดขวางเสรีภาพการชุมนุมโดยสงบตามรัฐธรรมนูญมาตรา 63 ฉะนั้นจึงขอแสดงความจำนงริเริ่มรวบรวมรายชื่อประชาชนเพื่อถอดถอนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 164 และ 270 ประกอบมาตรา 274 ต่อไป" นายเทพมนตรี กล่าว
ด้านนายประสพสุข กล่าวว่า จะดำเนินการตามขั้นตอน โดยผู้ริเริ่มรวบรวมรายชื่อต้องกลับไปรวบรวมมาให้ครบภายใน 180 วัน คือภายในวันที่ 5 ต.ค.53