นายปณิธาน วัฒนายากร โฆษกประจำสนักนายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงและทำความเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินการคืนพื้นที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ และบริเวณถนนราชดำเนินซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่เวลาประมาณ 13:00 น.ซึ่งวัตถุประสงค์สำคัญของรัฐบาลดำเนินการคืนพื้นที่ให้กับประชาชนทั่วไปให้สถานการณ์คลี่คลายกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็วให้ประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ให้การจราจร ให้การติดต่อสื่อสาร การพยายามดำเนินการกลับสูภาวะปกติ
ความจำเป็นในการคืนพื้นที่ให้สาธารณะเป็นสิ่งที่รัฐบาลพยายามดำเนินการมาโดยตลอด และจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการชุมนุมไม่ได้เป็นไปตามกฎหมาย การกีดขวางจราจร มีผลกระทบต่อความเป็นอยู่ ความสงบเรียบร้อยรัฐบาลจึงต้องดำเนินการดังกล่าว ซึ่งอยู่บนพื้นฐานหลักสากล เพื่อแก้ไขให้สถานการณ์กลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็ว
"รัฐบาลยืนยันว่าการดำเนินการจะทำด้วยความระมัดระวัง ตามหลักพื้นฐาน คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนและผู้ชุมนุม รัฐบาลขอให้ความมั่นใจกับประชาชนว่าจะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ พลเรือนอย่างเหมาะสม และจะมีการประกาศให้ประชาชนรับทราบเป็นระยะ"โฆษกรัฐบาล กล่าว
พร้อมกันนี้ รัฐบาลจะดำเนินการทางกฎหมาย ดำเนินการออกหมายจับ หมายเรียกบุคคลที่ก่อความวุ่นวายตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และดำเนินการกับสื่อที่รายงานไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าไปในสถานที่ชุมนุม ติดตามข่าวสาร และระมัดระวังการเผยแพร่ข่าวสารอันเป็นเท็จ
ด้านพ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ. เปิดเผยว่า เหตุการณ์ความวุ่นวายในวันนี้เริ่มจากกลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 200-300 คน พยายามกดดันยั่วยุ ที่หน้ากองทัพภาคที่ 1 ซึ่งเจ้าหน้าก็ได้ใช้น้ำฉีกตามหลัก ทำให้ผู้ชุมนุมเดินทางกลับไปที่ตั้งที่สะพานผ่านฟ้า ไปปลุกระดมคนว่าเจ้าหน้าที่ทหารทำร้ายประชาชน
จากนั้นจึงได้เริ่มดำเนินการตามแผนในการขอคืนพื้นที่ แบ่งเป็น 2 ทิศทาง คือจากลานพระรูปและอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เรายึดหลักจากเบาไปหาหนักตั้งแต่การชี้แจงต่อผู้ชุมนุม การแสดงกำลัง การใช้โล่ห์ดัน ใช้น้ำฉีด ใช้เครื่องขยายเสียงกำลังส่งสูง แก๊สน้ำตา กระบอง และกระสุนยาง การปฏิบัติในพื้นที่เกิดเหตุการณ์ค่อนข้างเร็ว เหตุการณ์ที่จะพัฒนาไปถึงขั้นสุดท้ายไม่สามารถระบุได้ว่ากี่นาที
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้รุกคืบเข้าใกล้บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ โดยในด้านที่จะมาทางลานพระรูปทรงม้า ได้เข้ามาถึงหนากระทรวงศึกษาธิการแล้ว ส่วนอีกด้านก็ได้เข้ามาถึงถนนพระสุเมรุ
"ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทุกนายเป็นห่วงความปลอดภัยของประชาชน ให้เกิดผลกระทบให้น้อยที่สุด แต่เท่าที่ทราบ พบว่า ผู้ชุมนุมบางคนมีอาวุธ กระสุน ระเบิด ที่แยกคอกวัวมีเจ้าหน้าที่ 2 นายบาดเจ็บจากการถูกยิง"โฆษก ศอฉ. กล่าว
ส่วนที่มีข่าวลือว่าเจ้าหน้าที่ใช้กระสุนจริง หรือนายกฯสั่งจัดการเฉียบขาด ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ผู้ที่จะมีกระสุนจริงมีเพียงนายทหารชั้นสัญญาบัตรและนายสิบอาวุโส ซึ่งอยู่แถวหลังที่จะยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อข่มขวัญให้ผู้ชุมนุมล่าถอยเท่านั้น
นอกจากนี้ มีข่าวลือตั้งค่าหัวแกนนำเสื้อแดงก็ไม่เป็นความจริง มีแค่การแจกจ่ายภาพผู้ที่ถูกออกหมายจับเท่านั้น