นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่าก่อนหน้านี้รัฐบาลได้ถูกกลุ่มที่อยากเห็นการชุมนุมของกลุ่มนปช.ยุติตำหนิว่ารัฐบาลอ่อนแอจากการที่ไม่ได้บังคับใช้กฎหมายบ้านเมือง ซึ่งตลอด 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมามีการก่อเหตุวินาศกรรมขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับเหตุการณ์ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาทำให้รัฐบาลไม่มีทางเลือกที่จะต้องบังคับใช้กฎหมายตามอำนาจที่มีอยู่ เพราะหากไม่ดำเนินการใดๆ ก็จะยิ่งสะท้อนถึงความอ่อนแอของรัฐและของประเทศ
"เหตุการณ์ 2-3 วันที่ผ่านมา รัฐบาลไม่มีทางเลือกนอกจากการแสดงออกถึงความจำเป็นที่จะต้องบังคับใช้กฎหมาย เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเมื่อวานนี้ หรือการแสดงออกของผู้ชุมนุมซึ่งผิดกฎหมายหลายครั้ง กระทบกระเทือนต่อความเชื่อมั่นของกฎหมาย และยังกระทบถึงสถาบัน...หากรัฐบาลไม่ดำเนินการอะไร ก็จะสะท้อนถึงความอ่อนแอของรัฐหรือของประเทศ เหตุผลนี้รัฐบาลจึงต้องตัดสินใจบังคับใช้กฎหมายด้วยการขอคืนพื้นที่ชุมนุมบางส่วนให้แก่ประชาชนทั่วไป"นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การดำเนินการขอคืนพื้นที่นั้นเจ้าหน้าที่มีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน โดยต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนให้มากที่สุด มีขั้นตอนและกฎการใช้กำลังอย่างชัดเจน และยืนยันว่ามีการกำหนดแนวทางการใช้กระสุนจริงได้เพียงแค่ 2 กรณีเท่านั้น คือ การยิงขึ้นฟ้า และกรณีที่เจ้าหน้าที่ต้องปกป้องอันตรายที่เกิดขึ้นจวนตัว
โดยการขอคืนพื้นที่ตั้งแต่ช่วงบ่ายถึงค่ำประสบปัญหามากมาย และปฏิเสธไม่ได้ว่ากลุ่มผู้ชุมนุมมีการพกพาอาวุธด้วย และเหตุการณ์หลักที่นำมาสู่ความสูญเสียในครั้งนี้ คือการใช้อาวุธ M79 ส่งผลให้ทหารเสียชีวิต ขณะเดียวกันก็มีพลเรือนเสียชีวิต ซึ่งจะต้องมีการพิสูจน์อย่างชัดเจนต่อไป
"ความสูญเสียที่เกิดขึ้นจะต้องมีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงเพื่อเป็นคำตอบให้สังคมว่าเหตุการณ์ที่แท้จริงเป็นอย่างไร กรณีความสูญเสียทุกกรณีจะต้องไม่ดำเนินการไปตามขั้นตอนที่ควรจะเป็นโดยปกติตามกฎหมาย สมควรจะให้ผู้มีวิชาชีพโดยตรงดำเนินการอย่างเป็นอิสระ เพื่อให้ความจริงปรากฎต่อสังคม และขณะนี้ไม่ควรมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดกล่าวหาอีกฝ่ายหนึ่งว่าเป็นผู้กระทำให้เกิดความสูญเสีย" นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลยังคงมีหน้าที่คลี่คลายสถานการณ์ต่อไป และจะทำทุกวิถีทางให้บ้านเมืองสงบโดยรักษาความถูกต้อง พร้อมให้คำมั่นว่ารัฐบาลจะดำเนินการตรงไปตรงมา โปร่งใส เป็นธรรม และคำนึงถึงผลประโยชน์ประเทศชาติเป็นที่ตั้ง และยึดประโยชน์ประชาชนอย่างสูงสุด โดยจะไม่พิจารณาผลประโยชน์ส่วนตนแม้แต่น้อยนิด
นายกรัฐมนตรี ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงความเป็นไปได้ในการประกาศกฎอัยการศึก โดยระบุว่า ไม่ใช่อำนาจของตน
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลไม่ได้พูดคุยถึงการยุบสภาซึ่งเป็นข้อเรียกร้องของกลุ่มนปช.แต่จะมุ่งมั่นทำหน้าที่คลี่คลายสถานการณ์ให้จบก่อน ส่วนการขอคืนพื้นที่การชุนนุมจะดำเนินการอย่างไรนั้น คงต้องประเมินสถนการณ์ต่อไป
สำหรับเหตุการณ์ปะทะกันในช่วงค่ำวันนี้มีผู้เสียชีวิตทั้งฝ่ายเจ้าหน้าที่และประชาชนแล้ว 11 ราย ซึ่งขณะนี้นายกรัฐมนตรีแสดงความกังวลกับกรณีที่กลุ่มคนสื้อแดงได้บุกเข้าไปในโรงพยาบาลเพื่อนำศพผู้เสียชีวิตไปขึ้นเวทีปราศรัย เพราะเกรงว่าจะเป็นประเด็นนำไปสู่ควมขัดแย้งเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ การดำเนินการขั้นต่อไปจะต้องพิสูจน์ทราบถึงสาเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพื่อให้เกิดความชัดเจน และทุกอย่างต้องเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย
นายสาทิตย์ กล่าวว่า การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่เป็นการดำเนินการตามยุทธวิธีที่กำหนดไว้ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นบริเวณสี่แยกคอกวัวมีการใช้อาวุธสงครามยิงเข้าใส่ฝ่ายเจ้าหน้าที่
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.)เปิดเผยว่า ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บรวม 230 นาย ซึ่งในจำนวนดังกล่าวมี 92 นายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนใหญ่ถูกยิงด้วยอาวุธปืนและวัตถุระเบิด
ขณะที่ยอดผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดในขณะนี้ทั้งฝ่ายเจ้าหน้าที่และประชาชนสูงถึงราว 500 คน