นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.)จะดำเนินการแยกแยะกลุ่มก่อการร้ายที่ต้องการสร้างสถานการณ์ความรุนแรงเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองออกจากประชาชนผู้บริสุทธิ์ เนื่องจากกลุ่มผู้ก่อการร้ายได้ใช้ประชาชนที่มาร่วมชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยเป็นเครื่องมือในการก่อเหตุ จึงขอเรียกร้องให้ประชาชนอย่าเข้าร่วมในกลุ่มดังกล่าว
ทางการพร้อมเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดก็ตาม รวมทั้งความเสียหายด้านเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นกับภาคธุรกิจด้วย ขณะเดียวกันก็จะมีกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย
"เราอยากเรียกร้องให้พี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ทั้งหลาย อย่าได้เข้าร่วมหรือเป็นเครื่องมือของกระบวนการตรงนี้ และเมื่อเราสามารถแยกแยะได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น ก็จะสามารถกำหนดมาตรการในการดำเนินการที่เหมาะสมต่อไปในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น" นายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมเกี่ยวกับความไม่ยุติธรรมหรือเรื่องประชาธิปไตยนั้น ต้องแก้ไขโดยฝ่ายการเมือง ซึ่งนายกรัฐมนตรีและพรรคร่วมรัฐบาลได้หารือกันอย่างต่อเนื่อง และจะนำข้อเสนอที่เคยใช้ในการเจรจากับแกนนำ นปช.มาเร่งรัดปรับปรุงให้เป็นทางออกสำหรับการแก้ปัญหาทางการเมืองต่อไป
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การดำเนินการใน 2 ส่วนคือ การแยกแยะประชาชนผู้บริสุทธิ์ออกจากผู้ก่อการร้ายให้ชัดเจน และการแก้ไขปัญหาทางการเมืองจะต้องทำอย่างคู่ขนานกันไป ซึ่งทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล กองทัพ ตำรวจ กระทรวงต่างๆ และพรรคร่วมรัฐบาลได้ดำเนินการอย่างมีเอกภาพและสอดคล้องกันโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ดี เหตุการณ์วันที่ 10 เม.ย. จะมีการประมวลเหตุการณ์และตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมทั้งมีการรับผิดชอบ โดยจะมีการตั้งคณะกรรมการประมวลเหตุการณ์เช่นเดียวกับเหตุการณ์เม.ย.51 ซึ่งรัฐบาลพร้อมจะให้ความร่วมมือกับกระบวนการตรวจสอบแก่องค์กรที่มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงและมีความเป็นอิสระ เช่น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ส่วนการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด รัฐบาลจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนความเสียหายทางเศรษฐกิจกับผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้อง
"รัฐบาลจะเดินหน้าสะสางปัญหาต่างๆ ตามแนวทางเหล่านี้อย่างรวดเร็วที่สุด และขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในการให้การสนับสนุนรัฐบาลในการดำเนินการตามแนวทางนี้" นายกรัฐมนตรี กล่าว