นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษกระจายกำลังเข้าไปที่โรงแรมเอสซีปาร์ค หลังจากสืบทราบว่ามีแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดงได้เข้าไปหลบซ่อนพักพิง
"ขณะนี้ชุดปฏิบัติการพิเศษได้ปิดล้อมโรงแรมเอสซีปาร์ค ซึ่งได้สืบสวนทราบว่าบรรดาผู้ก่อการร้าย และแกนนำบางส่วนได้ไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่นั่น ขณะนี้กำลังปฏิบัติการอยู่" นายสุเทพ กล่าว
พร้อมระบุว่าในเวลา 10.30 น. จะมีการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ ซึ่งจะเป็นการระดมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจาก 9 หน่วยงานสำคัญ เพื่อมาร่วมบูรณาการในคดีเหตุการณ์คดีที่เกี่ยวกับการสลายการชุมนุมวันที่ 10 เม.ย.
นายสุเทพ ระบุว่า ขณะนี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่านอกจากจะมีผู้ชุมนุมที่เรียกร้องด้วยเหตุผลทางการเมืองแล้ว ยังมีกลุ่มผู้ก่อการร้ายปะปนอยู่ด้วยและได้ปฏิบัติการก่อการร้ายชัดเจน ทั้งการพยายามลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้าแรงสูงเพื่อหวังตัดไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และจะได้มีการก่อวินาศกรรม และที่รุนแรงสุดคือการใช้อาวุธสงครามโจมตีเจ้าหน้าที่ทหารในขณะปฏิบัติการเพื่อขอพื้นที่ชุมนุมคืนเมื่อวันที่ 10 เม.ย.53
ดังนั้นขอให้ประชาชนแยกตัวออกจากการชุมนุมดังกล่าว เนื่องจากศอฉ.จะดำเนินการทางกฎหมายขั้นเด็ดขาดกับกลุ่มผู้ก่อการร้าย และแกนนำที่ทำผิดกฎหมาย
"ศอฉ.วางแนวทางปฏิบัติ โดยมุ่งให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์แยกตัวออกจากกลุ่มผู้ก่อการร้าย ไม่เป็นโล่มนุษย์ให้กับผู้ก่อการร้ายอีกต่อไป เพราะศอฉ.จะดำเนินการบังคับกฎหมายโดยเด็ดขาดกับผู้ก่อการร้ายและแกนนำที่ทำผิดกฎหมาย...เราไม่สามารถปล่อยปละให้คนเหล่านี้ไปก่อความเสียหายให้กับบ้านเมืองได้อีกต่อไป เจ้าหน้าที่เกรงว่าการปฏิบัติการจะมีผลกระทบต่อประชาชน" นายสุเทพ กล่าว
ทั้งนี้ในส่วนของการดำเนินคดีนั้น ศอฉ.มีมติจะเสนอให้คณะกรรมการคดีพิเศษ ซึ่งจะประชุมเวลา 10.30 น.วันนี้ ได้รับคดีนี้เป็นคดีพิเศษ และให้ระดมกำลังจาก 9 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาบูรณาการทำคดีนี้ร่วมกัน เพื่อร่วมกันสืบสวนสอบสวนและนำตัวการที่กระทำผิดมาดำเนินการลงโทษตามกฎหมายบ้านเมือง
ส่วนการจับกุมและปราบปรามผู้ก่อการร้าย ได้จัดชุดปฏิบัติการพิเศษออกไปสืบสวน สอบสวน และจับกุมผู้ก่อการร้ายและแกนนำ เพื่อจะนำตัวมาดำเนินคดี ซึ่งล่าสุดได้มีการปิดล้อมโรงแรมเอสซีปาร์คหลังพบว่ามีแกนนำ นปช.บางส่วนไปหลบซ่อนตัวอยู่
นอกจากนี้จะเรียกตัวผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นผู้สนับสนุน หรือตัวการ มารายงานตัวที่กรมทหารราบ 11 รักษาพระองค์(ร.11 รอ.)ตามคำสั่ง ศอฉ. เพื่อสอบสวนซึ่งหากไม่มารายงานตัวก็จะออกหมายจับต่อไป พร้อมกันนี้จะมีการออกหมายจับเพิ่มเติมในส่วนของบุคคลที่ได้สอบสวนแล้วเห็นว่ามีพยานหลักฐานชัดเจนว่าบุคคลเหล่านี้เป็นผู้ทำผิดกฎหมายอย่างชัดเจน ส่วนกรณีอาวุธของทางราชการบางส่วนที่ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมยึดไปนั้น ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยต่างๆ แล้ว
นายสุเทพ ระบุว่า แม้การปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่จะกระทำด้วยความรอบคอบเพียงใดก็ตาม แต่สิ่งที่กังวลใจมากที่สุดคือ เกรงว่าผู้ก่อการร้ายจะทำร้ายประชาชนและโยนความผิดให้เจ้าหน้าที่ เพื่อฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์ให้บานปลายยิ่งขึ้น ดังนั้นเมื่อประชาชนที่มาร่วมชุมนุมได้มาแสดงออกทางการเมืองเรียบร้อยแล้ว ก็ควรจะเดินทางกลับภูมิลำเนาได้แล้ว ขอให้การเมืองได้แก้ไขกันด้วยวิถีทางทางการเมืองต่อไป
"ผมได้ทำใบปลิวและสั่งให้รถขยายเสียงไปประกาศให้ผู้ชุมนุมได้รับทราบ เพราะการที่ผู้ก่อการร้ายแฝงตัวอยู่ในผู้ชุมนุมนี้เป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อบ้านเมือง และเราจำเป็นต้องยุติพฤติกรรมอย่างนี้ของผู้ก่อการร้ายโดยเร็วที่สุด" รองนายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนกรณีที่แกนนำนปช.จะพาผู้ชุมนุมไปบุกสถานีโทรทัศน์วิทยุ เพื่อข่มขู่คุกคามการนำเสนอข่าวสารนั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ ดังนั้นจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่จัดกำลังไปคุ้มครองสื่อต่างๆ แล้ว หากพบว่าแกนนำพากลุ่มผู้ชุมนุมบุกรุกเข้าไป เจ้าหน้าที่จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด พร้อมกันนี้ได้ขอความร่วมมือประชาชนว่าหากพบเห็นแกนนำนปช.หลบซ่อนตัวอยู่ที่ใดให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยด่วน
นายสุเทพ กล่าวด้วยว่า ในช่วงบ่ายวันนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะแถลงข่าวให้ทราบถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาทางการเมืองว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร