กลุ่ม 40 ส.ว. ร่วมกันแถลงหลังถึงสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ เนื่องจากเห็นว่าปัญหาปัจจุบันเป็นปัญหาความมั่นคงของชาติ จึงจำเป็นต้องมีการปกป้องบ้านเมืองและสถาบันของชาติ พร้อมวอนกลุ่มนปช.ยุติการชุมนุมโดยเร็ว ขณะเดียวกันยังไม่เห็นด้วยที่นายกรัฐมนตรีจะต้องลาออกหรือยุบสภาในขณะนี้
น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ถือว่าเป็นภัยคุกคามชาติ และการยุบสภาไม่ใช่แนวทางที่จะแก้ปัญหาได้ โดยฝากไปยังแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงว่าปัญหาความไม่เป็นธรรมเป็นเรื่องที่ต้องร่วมกันแก้ไข เพราะปัญหาคงไม่ได้แก้ได้ด้วยการยุบสภาเพียงอย่างเดียว
พร้อมทั้งเห็นว่าต้องแยกประชาชนออกจากแกนนำ เพราะส่วนตัวคิดว่าแกนนำได้เลยไปจากการชุมนุมโดยสงบแต่เป็นการทำลายบ้านเมือง ซึ่งรัฐบาลต้องจัดการกับหัวหน้า หรือแกนนำด้วยความระมัดระวังเพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับอันตราย
นอกจากนี้ยังขอให้ประชาชนชาวกทม.ตื่นตัว และร่วมกันแสดงพลังให้ประเทศสงบ เพราะหากปล่อยให้เหตุการณ์ล่วงเลยไปจะไม่สามารถแก้ไขได้ อีกทั้งไม่เห็นด้วยกับการยุบสภาและลาออกของรัฐบาล
อย่างไรก็ตามในฐานะที่เป็นประธานคณะกรรมาธิการตรวจสอบการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาธิบาล วุฒิสภา จะร่วมกับคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนและคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา เพื่อตรวจสอบเหตุการณ์วันที่ 10 เม.ย.53 เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งนี้ยังเห็นว่าแกนนำควรยุติการชุมนุมและแก้ปัญหาร่วมกันมากกว่าทำให้บ้านเมืองบอบช้ำจนไม่อาจพลิกฟื้นคืนมาได้
นายคำนูญ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา เรียกร้องไปยังแกนนำและประชาชนที่มาร่วมชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงให้ยุติการชุมนุมโดยเร็ว หากการชุมนุมครั้งนี้เป็นการชุมนุมที่บริสุทธิ์และเรียกร้องประชาธิปไตยที่แท้จริง เพราะต้องยอมรับว่าการชุมนุมที่ผ่านมากลุ่มคนเสื้อแดงได้รับประโยชน์และชัยชนะมากแล้ว
ส่วนการยุบสภาขอให้ปล่อยไปตามแนวทางการเมือง ซึ่งตนไม่อยากให้ต่อสู้เพื่อเอาชนะ โดยให้คำนึงถึงเหตุการณ์วันที่ 6 ตุลาคม 2519 ที่มีแต่ความสูญเสียมากมายมหาศาล ทั้งนี้การยุติการชุมนุมจะเป็นการแสดงให้เห็นได้ว่าแกนนำไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ก่อการร้าย และไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
นางพรพรรณ บุญยรัตนพันธุ์ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ปัญหาในปัจจุบันไม่ได้เป็นเพียงปัญหาทางการเมือง แต่สิ่งที่จำเป็นเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องแก้ไข คือ ปัญหาความมั่นคงของประเทศ และการรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งรัฐบาลต้องรับผิดชอบร่วมกับทหารและตำรวจ จัดการให้เกิดความสงบขึ้นโดยเร็วด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ส่วนตัวเชื่อว่าข้อมูลต่างๆ ที่ปรากฏตามสิ่งพิมพ์ และคำปราศรัยมีความเชื่อมโยงล้มล้างสถาบัน จึงจำเป็นที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไขโดยด่วน ดังนั้นการยุบสภาและเลือกตั้งใหม่จึงไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นในตอนนี้ อย่างไรก็ตาม เห็นว่ารัฐบาลจะต้องมีความชัดเจนในการแก้ปัญหาระยะยาว อาทิ เรื่องความไม่เป็นธรรม เรื่องสองมาตรฐาน ซึ่งรัฐบาลต้องสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหาได้
ด้านนายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า เหตุการณ์วันที่ 10 เม.ย. ปรากฏหลักฐานจำนวนมากที่ระบุว่ามีกองกำลังไม่ทราบฝ่าย พร้อมแสดงความเป็นห่วงการชุมนุมบริเวณแยกราชประสงค์ว่าอาจกลายเป็นดงสังหาร จึงเกรงว่าประชาชนจะไม่ปลอดภัย และทราบว่าจังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือตอนล่างที่เดินทางมาร่วมชุมนุมได้เดินทางกลับภูมิลำเนาแล้ว เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย ทั้งนี้เห็นว่ารัฐต้องใช้ความเข้มข้นของสื่อมากขึ้น โดยใช้สื่อของรัฐให้เป็นประโยชน์มากกว่านี้
ทั้งนี้กลุ่ม 40 ส.ว. เตรียมเสนอต่อที่ประชุมวุฒิสภา เพื่อขอตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบเหตุการณ์วันที่ 10 เม.ย.53 อีกด้วย