การประชุมวุฒิสภาวันนี้ นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ได้เปิดให้ ส.ว.หลายคนหารือถึงสถานการณ์บ้านเมือง ซึ่งส่วนใหญ่ต่างกังวลว่าจะเกิดสงครามกลางเมืองขึ้น เพราะขณะนี้ปัญหาการเมืองได้เริ่มลุกลามกลายเป็นปัญหาความมั่นคงของชาติและสถาบันไปแล้ว
น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. กล่าวว่า รัฐบาลจำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังในการแก้ไขปัญหาด้วยการไม่เข้าไปปะทะ เพราะแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดง ต้องการจะยึดพื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ เพื่อก่อให้เกิดความวุ่นวาย ดังนั้นต้องระวังการปะทะเพื่อไม่ให้เกิดรัฐประหาร ซึ่งรัฐบาลจะต้องไม่ตกเข้าไปอยู่ในเกมของผู้ที่ไม่หวังดี
นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ได้ฝากไปถึงแกนนำนปช.ว่าหนทางที่ดีที่สุดตอนนี้คือเร่งประกาศชัยชนะและสลายการชุมนุมด้วยตัวเอง เพราะต้องยอมรับว่าเมื่อวันที่ 10 เม.ย.53 มีกลุ่มผู้ไม่หวังดีแฝงตัวเข้ามาในการชุมนุมและมีการใช้อาวุธสงคราม ซึ่งก่อนหน้านี้นายวีระ มุกสิกพงษ์ แกนนำคนสำคัญเคยบอกไว้ว่าการต่อสู้ต้องสันติ ถ้าใกล้ชนะแล้วมีความรุนแรงก็จะหยุด
ทั้งนี้ หากเห็นว่าการที่คนเสื้อแดงสั่งสมชัยชนะเป็นลำดับมาตลอด 1 ปีจากการบริหารงานของรัฐบาลที่ไม่มีประสิทธิภาพ และรัฐบาลจะอยู่ได้ไม่นานก็ต้องเลือกตั้งใหม่ คนเสื้อแดงก็ควรจะยุติการชุมนุมได้แล้ว เพราะไม่เช่นนั้นอาจถูกมองว่ามีเป้าหมายแอบแฝง
ขณะที่นางนฤมล ศิริวัฒน์ ส.ว.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการเห็นภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรีที่ชัดเจนมากว่าใน 7 วันที่ผ่านมาหลังจากเหตุการณ์วันที่ 10 เม.ย. พร้อมกับตั้งข้อสังเกตไว้ 3 ประเด็น คือ 1.เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุการณ์วันที่ 10 เม.ย.53 มีทั้งผู้ชุมนุม ทหาร สื่อมวลชน และประเทศไทย
2.การที่รัฐบาลกล่าวถึงผู้ก่อการร้ายในชุดดำ แต่ตอนหลังมีการพูดถึงคนที่ใส่เสื้อแดงด้วยนั้นในจุดนี้ต้องควรระวัง เพราะจะเป็นการสร้างความเกลียดชังคนเสื้อแดงให้เกิดขึ้นในหมู่ประชาชน และ 3.ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบกรณีที่มีการเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวถึง 25 คน ซึ่งนายกรัฐมนตรีต้องออกมาชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ