นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีมหาวิทยาธรรมศาสตร์ เป็นตัวแทนองค์กรภาคประชาชน 16 แห่ง เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี และผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์(ร.11 รอ.) เพื่อเรียกร้องให้ใช้แนวทางการเจรจาและสันติวิธีแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง หลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงเหมือนวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา
"ขอร้องทุกฝ่ายให้ช่วยกันเปลี่ยนเส้นทางของประเทศไทยที่กำลังเดินหน้าไปสู่หายนะ โดยใช้สันติวิธีและการเจรจาในการแก้ปัญหาและนำพาประเทศไทยออกจากวิกฤต" หนังสือจากองค์กรภาคประชาชน ระบุ
ทั้งนี้ทาง 16 องค์กรภาคประชาชนได้เสนอแนวทาง 5 ข้อ เพื่อไม่ให้ประเทศไทยถลำลึกลงไปสู่วิกฤตการณ์ของความรุนแรงและความแตกแยกมากยิ่งขึ้น ได้แก่ 1.การนำเหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 เม.ย.มาเป็นบทเรียนว่าความรุนแรงไม่ใช่หนทางที่จะพาประเทศออกจากวิกฤตได้ ถึงแม้จะพยายามลงมือโดยไม่ให้มีการสูญเสีย แต่ไม่เคยมีประเทศใดสามารถทำสำเร็จได้โดยไม่มีการสูญเสียเลือดเนื้อเลย กลับยิ่งทำให้เหตุการณ์ลุกลามไปมากขึ้นทั้งสิ้น
2.ขอให้ทั้งสองฝ่ายถอยกันคนละก้าว เพื่อเปลี่ยนเส้นทางที่กำลังพาประเทศไทยมุ่งหน้าไปสู่การแตกหักและความพังพินาศของทุกฝ่าย เพราะการเมืองในระบอบประชาธิปไตยคือการเอาชนะใจประชาชน ไม่ใช่ด้วยการใช้กำลัง หรือการบังคับให้คนอื่นต้องปฏิบัติตาม
3.ขอให้ทุกฝ่ายใช้วิธีการเจรจาและการประนีประนอมกันในการแก้ไขปัญหา ในการเจรจาที่ผ่านมาทั้ง 2 ฝ่ายต่างเห็นพ้องกันแล้วว่า วิกฤตการณ์ทางการเมืองและความขัดแย้งของคนในประเทศควรจบที่การเลือกตั้งครั้งหน้า สิ่งที่แตกต่างกันมีเพียงว่าควรมีการเลือกตั้งเมื่อไร
"รัฐบาลยอมที่จะให้มีการเลือกตั้งเร็วขึ้นแล้ว คนเสื้อแดงก็ควรยอมประนีประนอมเรื่องเวลาด้วย เพราะมีประชาชนจำนวนมากไม่เห็นด้วยกับการยุบสภา ทั้งสองฝ่ายควรผ่อนเงื่อนไขเข้าหากันและหากรอบเวลาที่ยอมรับกันได้ทุกฝ่าย พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลควรใช้กลไกรัฐสภา และเจรจากันเพื่อช่วยหาทางออกให้ประเทศ" หนังสือจากองค์กรภาคประชาชน ระบุ
4.ขอให้ทุกฝ่ายหยุดการนำเสนอข้อมูลด้านเดียว เพราะการที่แต่ละฝ่ายให้ข้อมูลด้านเดียวในการสร้างความชอบธรรมให้แก่ฝ่ายตนเอง จะยิ่งนำไปสู่ความเกลียดชังและความแตกแยกของคนในประเทศยิ่งขึ้น
5.ขอให้ทหารอย่าทำรัฐประหารอีก เพราะจะยิ่งทำให้ประเทศถลำลึกลงไปในวิกฤตการณ์ยิ่งขึ้น และจะทำให้ประชาธิปไตยที่ทุกฝ่ายร่วมกันประคับประคองมาถึงขณะนี้ต้องถอยหลังไปหลายสิบปี
ในตอนท้ายของหนังสือยังระบุว่า ขอให้ความสูญเสียที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียนแก่สังคมไทยว่าความรุนแรงและการแตกหักไม่ใช่หนทางการแก้ปัญหา เพราะประชาธิปไตยคือการอยู่ร่วมกันให้ได้ภายใต้ความแตกต่าง ถ้าสังคมไทยช่วยกันใช้สันติวิธีและวิถีทางประชาธิปไตย เราจะสามารถเปลี่ยนเส้นทางของประเทศจากที่กำลังเดินไปสู่หายนะให้กลับมาสู่เส้นทางที่จะออกจากวิกฤตการณ์โดยไม่เสียเลือดเนื้อได้
ทั้งนี้ องค์กรภาคประชาชนทั้ง 16 แห่ง ได้ยื่นหนังสือดังกล่าวต่อแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงที่ปักหลักชุมนุมบริเวณแยกราชประสงค์ด้วย