นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เห็นด้วยกับข้อเสนอของประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สป.)ที่แนะนำให้รัฐบาลร่นระยะเวลาในการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2554 ให้เสร็จสิ้นโดยเร็วก่อนกำหนด หรือภายในเดือน ก.ค.นี้ ก่อนที่จะดำเนินขั้นตอนการยุบสภา แต่ไม่ได้ระบุว่าจะใช้เวลาเท่าใดในการยุบสภา
รัฐบาลเตรียมจะเสนอการปรับแผนงานในงบประมาณปี 54 ทั้งหมด รวมทั้งการดำเนินการภายใต้ พ.ร.บ.และ พ.ร.ก.กู้เงิน ซึ่งจะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในสัปดาห์หน้า ซึ่งเชื่อว่าจะได้ข้อสรุปทั้งหมด
"จริงๆ ก็เห็นตรงกันในแง่ที่ผมคิดว่าการยุบสภาไม่ควรเกิดขึ้นก่อนงบประมาณจะผ่าน ไม่ได้หมายความว่างบประมาณผ่านจะใช้งบประมาณ แต่อยากให้การบริหารงบประมาณเป็นไปตามปกติ" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาการชุมนุมในแยกราชประสงค์ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก เพราะการข่าวรายงานว่าขณะนี้มีการจัดตั้งกลุ่มคนชุดขาวที่มีอาวุธครบมือ ซึ่งเตรียมการจะก่อการร้าย โดยแฝงตัวอยู่ในพื้นที่การชุมนุม จึงเป็นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง และยังเป็นห่วงการปะทะระหว่างคนเสื้อแดงกับเสื้อหลากสี โดยได้ย้ำกับเจ้าหน้าที่ให้แยกคนกลุ่มสองกลุ่มออกห่างจากกันเพื่อป้องกันเหตุซ้ำรอย
นอกจากนั้น ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณที่บ่งบอกว่าผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ไม่อยากปฏิบัติงาน แต่อาจมีระดับชั้นที่ต่ำลงไปอาจจะมีปัญหาอยู่บ้าง
"มีสิ่งยืนยันว่าการเตรียมการมีทั้งอาวุธ จากทางการข่าวมีแน่นอน และบุคคลที่ไม่ใช่เฉพาะที่ตั้งด่าน 6 ด่าน หลังจุดตั้งด่านมีชุดขาวแทนชุดดำ ไม่ใช่เรื่องที่เราจะสามารถดำเนินการโดยไม่รัดกุมได้ ชุดขาวมีอาวุธครบมือและอาจจะเปลี่ยนสีจากชุดดำมาเป็นชุดขาวก็ได้" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ทั้งนี้ รัฐบาลยังมุ่งมั่นที่จะบังคับใข้กฎหมายต่อไป ซึ่งในวันนี้ได้มีการจับกุมแนวร่วมบางคน อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าแนวทางการเปิดเจรจารอบใหม่กับแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นคงเป็นไปได้ยากแล้ว เพราะฐานะของผู้เจรจาก็เปลี่ยนไป แต่รัฐบาลก็จะพยายามหาทางออกทางการเมืองไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น เชื่อว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะเข้าใจ และหากมีปัญหาใดๆ ก็สามารถพูดจากันได้อยู่แล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่มีโอกาสพบกัน คำตอบเรื่องนี้จะต้องชี้แจงกับสังคมได้และทุกฝ่ายต้องยอมรับได้