นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ขอประณามผู้รับผิดชอบกรณีเหตุการณ์เกิดความรุนแรงที่เกิดขึ้นที่ถนนสีลมวานนี้ พร้อมทั้งขอเรียกร้องให้รัฐบาลและหน่วยงานด้านความมั่นคงคุ้มครองประชาชนที่ชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธตามสิทธิแห่งรัฐธรรมนูญ และขอให้หยุดยั้งผู้ที่เกี่ยวข้องกับการฆ่าประชาชนด้วยอาวุธสงคราม
ขอเรียกร้องให้สื่อมวลชนทุกแขนงที่อยู่ในพื้นที่ ร่วมกันนำเสนอข้อมูลที่เกิดขึ้นให้สาธารณชนได้รับทราบโดยเร็ว เพราะขณะนี้มีกระบวนการที่พยายามบิดเบือนเหตุการณ์วานนี้โดยปราศจากความละอายใจเพื่อปฏิเสธความรับผิดชอบ โดยเฉพาะจากแกนนำนปช. ที่พยายามจะสร้างความเท็จว่าเจ้าหน้าที่และรัฐบาลอยู่เบื้องหลังความรุนแรง
และ ขอเรียกร้องให้กลุ่มหลากสีใช้ความระมัดระวังไม่เข้าใกล้กลุ่มผุ้ชุมนุมที่ให้ที่พักพิงต่อผู้ก่อการร้าย และขอให้หยุดชุมนุมหลังพระอาทิตย์ตก เพราะมีความสุ่มเสี่ยงต่อความรุนแรงเช่นที่เกิดขึ้นวานนี้ โดยบริเวณดังกล่าวถือว่าเป็นพื้นที่ที่มีการก่อการร้าย ซึ่งเจ้าหน้าทีจะต้องควบคุมพื้นที่ดังกล่าวโดยเร็ว รวมถึงการขยายผลไปสู่แกนนำที่รับผิดชอบบริเวณเหตุการณ์ คือนายขวัญชัย ไพรพนา ในฐานะที่อาจจะมีบทบาทในการสมคบ หรือให้ที่พักพิงแก่กองกำลังขบวนการดังกล่าวนี้
ในขณะเดียวกันก็ขอให้รัฐบาลใช้อำนาจตามพระราชกำหนด หากไม่สามารถจับกุมแกนนำคนอื่นๆ หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการก่อการร้ายได้ทันที ก็ขอให้ใช้อำนาจในการอายัดทรัพย์ ที่ใช้ในการจัดซื้อ จัดหา อาวุธ วัตถุระเบิด และอาวุธสงคราม ที่ใช้ในการก่อการร้าย ก่อวินาศกรรม และ ทำร้ายประชาชน
ขอให้รัฐบาลได้เร่งสื่อสารให้ประชาชนทั้งประเทศ เพื่อให้ความมั่นใจว่าจะสามารถดูแลความสงบเรียบร้อย และสามารถไล่ล่า และดำเนินการต่อผู้ก่อการร้ายที่อยู่ในส่วนของกองกำลัง ของขบวนการ เพื่อให้เข้ามารับผลของการกระทำและรับผิดชอบตามกฎหมายโดยเด็ดขาด เพราะสังคมขณะนี้อยู่ภายใต้ภาวะวิตกหวาดผวา และหวาดกลัว จากการกระทำของกลุ่มบุคคลดังกล่าว เป็นอย่างยิ่ง
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันก็ขอให้ทางรัฐบาลเร่งขอความร่วมมือจากมิตรประเทศ ที่ขณะนี้ก็มีการยืนยันและยอมรับการปรากฎอยู่ของขบวนการก่อการร้าย รวมทั้งสื่อมวลชนต่างประเทศ ที่มีการบันทึกภาพในเหตุการณ์ตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. จนถึงวานนี้ ให้ประชาคมชาวโลกได้ช่วยกันในการให้ข้อมูลแลกเปลี่ยนงานการข่าว สอบหาเบาะแสเส้นทางการเงิน และให้ความร่วมมือในการจับกุมแกนนำและผู้เกี่ยวข้องทั้งในและนอกประเทศ ให้เข้ามาสู่การดำเนินคดีตามบทบัญญัติของโดยด่วน