นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ"เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์"ว่า รัฐบาลไม่ยอมรับเงื่อนไขที่เป็นลักษณะการยื่นคำขาดจากบุคคลที่ใช้วิธีการรุนแรงคุกคามทำร้ายประชาชน ซึ่งเป็นจุดยืนที่ต้องดำรงไว้ แต่รัฐบาลจะไม่ละความพยายามในการหาคำตอบที่เป็นทางออกของประเทศ โดยอาจจะมีคนกลางและฝ่ายต่าง ๆ เข้ามาช่วยหาคำตอบ ไม่ใช่บอกว่าจะใช้เวลานานเท่าไหร่ แต่จะต้องขึ้นกับว่าต้องทำอะไรเพื่อเป็นคำตอบที่แท้จริงที่จะทำให้ประเทศกลับสู่ความสงบสุขอย่างแท้จริง
"กระบวนการนี้ไม่ได้หยุด แต่ต้องใช้วิธีการที่เหมาะสม ผู้ชุมนุมต้องทำตามหลักของกฎหมายและความยุติธรรม"นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงการไม่รับข้อเสนอยุบสภาภายใน 30 วัน
การทำงานที่แก้ไขปัญหายากจนและสร้างความเป็นธรรมในสังคม เป็นเหตุผลสำคัญว่าทำไมปฏิทินงบประมาณจะต้องดำเนินการเป็นปกติ เพราะถ้ากระบวนการชะงักงัน โครงการต่าง ๆ ก็จะสะดุดลง ขณะนี้ความคิดเห็นขององค์กรต่าง ๆ หลั่งไหลมามาก ไม่ใช่คำตอบจะยุบสภาเมื่อใด แต่เป็นการแก้ไขปัญหาโครงสร้างที่ไม่เป็นธรรม จะใช้คำว่าปฏิรูปประเทศไทย ซึ่งรัฐบาลพร้อมเริ่มต้นกระบวนการให้เกิดความยั่งยืน และมีการระดมกำลังประชาชนเข้ามาร่วมทำกิจกรรมต่าง ๆ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สถานการณ์การชุมนุมที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อทุกด้าน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ จากช่วงก่อนหน้ามีการชุมนุมหลายองค์กระระหว่างประเทศคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้มากกว่าที่หน่วยงานในประเทศคาดการณ์ไว้ บางองค์กรคาดว่าจะเติบโตถึง 6.2% ในปีนี้ แต่เมื่อมีสถานการณ์ชุมนุมเกิดขึ้นทำให้หน่วยงานภาครัฐยังไม่สามารถปรับคาดการณ์เศรษฐกิจขึ้นไปได้ โดยจะต้องรอดูผลกระทบให้ชัดเจนทั้งในเดือนนี้ เดือนที่ผ่านมา และช่วงต่อไป
ที่เห็นได้ชัดคือด้านการท่องเที่ยว แม้ว่าที่ผ่านมายังเห็นภาพไม่ชัด เพราะยังมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามา แต่ประเทศต่าง ๆ เริ่มมีคำเตือนและคำแนะนำเกี่ยวกับการเดินทางเข้ามาในประเทศไทยให้กับประชาชนของเขา ทำให้มีการยกเลิกการจองห้องพักหรือการเดินทางเข้ามาในช่วงที่เหลือของเดือนนี้ไปจนถึงเดือน พ.ค.แล้ว ซึ่งเป็นความเสียหายที่จะต้องแก้ไข
นอกจากนั้น ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)สัปดาห์หน้าจะมีการพิจารณาแนวทางความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองที่แยกราชประสงค์ โดยเฉพาะฝ่ายของลูกจ้างชั่วคราวที่จะต้องได้รับความช่วยเหลือเป็นลำดับแรก ไปจนถึงผู้ประกอบการทั้งรายย่อยและรายใหญ่
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลยังคงทำงานแก้ไขปัญหาทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมอย่างต่อเนื่อง โดยคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ(ครม.เศรษฐกิจ)ได้ต่ออายุสินเชื่อผู้ประกอบการรายย่อย และเร่งแก้ไขอุปสรรคการรลงทุน เพราะมีบริษัทขนาดใหญ่ที่ต้องการเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการประชุมอย่างต่อเนื่องเพื่อแก้ไขปัญหามาบตาพุดและช่วยเหลือผู้ประกอบการ อีกทั้งให้มีโครงการที่เข้ามาแก้ไขปัญหามลพิษ
รัฐบาลยังทำงานด้านการต่างประเทศและสังคม สัปดาห์ที่ผ่านมามีการมาเยือนของประธานาธิบดีจอร์เจีย และยังมีผู้นำที่จะเดินทางเข้ามาแต่รอดูสถานการณ์อีกส่วนหนึ่ง ส่วนนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรีที่เดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดนิวเคลียร์ได้พบผู้นำจำนวนมาก และได้ทำความเข้าใจสถานการณื่ที่เกิดขึ้นในไทย บางประเทศเข้าใจดี ซึ่งเราก็จะต้องชี้แจงต่อเนื่องต่อไป เพื่อเห็นเป้าหมายในการดำรงนิติรัฐและปกป้องประเทศ