ผบ.ทบ.จะจับแกนนำหากแยกผู้บริสุทธิ์จากที่ชุมนุมเพิ่ม,รู้ข่าวจะนำเข้าRPG

ข่าวการเมือง Sunday April 25, 2010 11:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. กล่าวว่า ในกรอบใหญ่ที่ท่านนายกฯ ได้เรียนให้ทราบเมื่อสักครู่นี้ว่า ถ้าการทำอะไรมันทำแล้วให้มันหมดไปคือความสงบสุขคืนสู่สังคม เราก็จะทำในเรื่องนั้นตามกรอบนโยบายของรัฐบาล ซึ่งในขณะนี้ถ่ายทอดลงมาในกรอบของ ศอฉ.อยู่ขณะนี้ รวมกันเป็นว่าเราพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ทุกอย่างมันกลับคืนสู่สภาพความสงบสุข อันนี้เป็นหลักสำคัญอย่างยิ่งนะครับ ทีนี้ถามว่าจะทำหรือไม่ทำอะไรนั้นจะเป็นภาพใหญ่อย่างที่ท่านนายกฯ ได้เรียนให้ทราบแล้ว

อีกส่วนของภูมิภาค แน่นอนว่าคนที่อยู่ที่สี่แยกราชประสงค์นั้นไม่ได้มาจากกรุงเทพมหานครเพียงอย่างเดียว มาจากปริมณฑล จังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งภูมิภาคด้วย เพราะฉะนั้นเราก็ใช้กลไกของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ได้ช่วยสร้างความเข้าใจให้กับคนในชาติ ว่าปัญหาที่แท้จริงนั้นมันเป็นอย่างไร แล้วก็ความถูกต้องมันเป็นอย่างไร สิ่งที่เขาได้ยินมาไม่ถูกต้องเป็นอย่างไร ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าถ้าทุกคนเข้าใจสถานการณ์ที่แท้จริง และเข้าใจจุดยืนของรัฐบาลที่ต้องการที่จะสร้างความสงบสุข ก็คงจะไม่เกิดปัญหา และเมื่อเป็นเช่นนั้นผมก็เชื่อมั่นว่าที่สี่แยกราชประสงค์ก็คงจะใช้คำว่า คงจะไม่มีความชอบธรรมก็ได้ หรือว่ามันคงจะลดลงไป หรือจะใช้คำว่า มันหดตัวลงไป ซึ่งในตอนนั้นถึงขั้นนั้นถ้าประชาชนผู้บริสุทธิ์เขาไม่อยู่ในกลุ่มนี้ และเราก็สามารถดำเนินการบังคับใช้กฎหมายได้เต็มที่ต่อผู้ที่ยังอยู่ หรือว่าผู้ที่ผิดกฎหมายก็ต้องใช้เจ้าหน้าที่เข้าไปปฏิบัติจับกุมทำอะไร ก็จะสามารถทำได้ สรุปแล้วก็คือจะทำในสิ่งที่มันทำให้ประเทศชาตินั้นเกิดความสงบสุข ไม่เกิดความสูญเสีย และเป็นไปตามกรอบของนโยบายของรัฐบาล

ในส่วนของอาวุธและยุทโธปกรณ์ อย่างอาร์พีจีคืนวันที่ 21 ที่คลังน้ำมันปตท. อยากจะเรียนว่าก่อนหน้าวันนั้นเราก็ได้รับข่าว อันนี้เป็นเรื่องความเป็นจริง และท่านนายกฯ ก็ได้ทราบแล้ว ท่านรองนายกฯ สุเทพก็ทราบแล้วว่าจะมีการเอาอาวุธอาร์พีจีเข้ามาจำนวนหนึ่ง อันนี้ด้วยความเป็นจริง และเราก็พยายามให้หน่วยนี้ได้สกัดกั้น ไม่ทราบว่าจะเป็นจำนวนเดียวกันหรือไม่อย่างไรก็ตาม และมีเหตุการณ์เกิดขึ้น ถ้าถามว่าอาวุธยุทโธปกรณ์บ้านเมืองนี้ก็ต้องใช้กฎหมาย เราเป็นทหารก็จะช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเต็มความสามารถที่จะช่วยกันกำจัดอาวุธสงครามเหล่านี้ให้หมดจากสังคมไป อันนั้นคือเรื่องตัวอาวุธ ส่วนในเรื่องของตัวบุคคลนั้น ก็ทราบๆ กันอยู่ว่ามีการจัดตั้งกันขึ้นมาอย่างที่ท่านนายกฯ เรียนแล้วนะครับ บางคนก็ยังอยู่ในกองทัพ แต่ว่าไม่มีตำแหน่งหน้าที่เท่าที่ทราบ ส่วนที่เหลือนั้นคาดว่าคงจะไม่ใช้ อาจจะเป็นอดีตหรือเป็นผู้ที่เคยเป็นข้าราชการที่เคยใช้อาวุธมา

ส่วนที่หลายคนก็วิพากษ์วิจารณ์ว่ากองทัพมีเอกภาพหรือเปล่า มีการขบเกลียวกันอยู่ระหว่างกลุ่มโน้นกลุ่มนี้ภายในกองทัพหรือเปล่า ขอให้สังคมเชื่อมั่นว่ากองทัพของเรายังเป็นกองทัพของชาติ กองทัพในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเป็นของประชาชนอยู่ เราจะปฏิบัติหน้าที่และทุกอย่างโดยไม่ได้มีฝักมีฝ่าย จะทำตามแน่ ๆ เลยต้องทำตามนโยบายรัฐบาล เพื่อให้เกิดผลประโยชน์กับประเทศชาติเป็นหลัก อันนี้เป็นสิ่งที่กองทัพยืนยันว่าทำ ในส่วนของความแตกแยกถ้าจะคิดว่าเป็นบุคคลแน่นอนองค์กรที่มีความใหญ่โต ผมว่าอาจจะเป็นไปได้ มันก็มี จะ 1-2-3-4-5 แต่ผมคิดว่าจำนวนตัวเลขตรงปริมาณดังกล่าวไม่มีนัยยะที่จะมาพูดได้ว่ามีความแตกแยกในกองทัพ จะเห็นว่าขณะนี้เราจัดกำลังมาจากกองทัพภาคต่าง ๆ ทุกคนก็ทำเต็มความสามารถ ช่วยกันดูแลบ้านเมือง เขาก็มาทุ่มเทอยู่กันมาเป็นเดือน ไม่มีความย่อท้อ ที่สำคัญเขาทำตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาได้อย่างเคร่งครัด ในขณะนี้ทุกอย่างพร้อม และเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่ากองทัพเป็นหนึ่งเดียวกันทั้ง 3 กองทัพ บก เรือ อากาศ ก็มีความเห็นเช่นเดียวกัน ช่วยกันทำให้สถานการณ์บ้านเมืองได้สู่ความสงบ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ