พ.ต.อ.วิสูตร ฉัตรชัยเดช รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ได้แถลงชี้แจงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 เมื่อวานนี้กรณีกลุ่ม นปช.นำกำลังจำนวน 500 คน ปิดถนนบริเวณถนนพหลโยธินขาเข้าใกล้กับโรงกษาปณ์ว่า การปิดถนนดังกล่าวเป็นความผิดที่ชัดแจ้ง และมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องชัดเจน รวมทั้งพระราชกำหนดในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐาน รวมทั้งการบันทึกเสียงของผู้ปราศรัยโจมตีต่าง ๆ ที่เป็นเรื่องผิดกฎหมาย เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
วานนี้ กลุ่ม นปช. ได้ทำการปิดถนนโดยการนำรถยนต์ส่วนบุคคล และรถกระบะไปจอดปิดกั้นถนนขาเข้าทั้งในช่องของทางด่วนและช่องคู่ขนาด และยังแสดงความประสงค์จะตรวจค้นรถตำรวจที่จะเข้ามาช่วยเหลือหรือเข้ามาสนับสนุนการปฏิบัติงานในพื้นที่ของกรุงเทพฯ ซึ่งขณะนั้นมีรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวน 4 กองร้อย ประกอบด้วย กองร้อยของจังหวัดนครพนม จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดชัยนาท และจังหวัดลพบุรี รวมทั้งสิ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ตรงนั้น จำนวน 538 นาย
ทั้งนี้ เมื่อมีการปิดถนนดังกล่าวแล้ว ในส่วนของตำรวจภูธรภาค 1 ก็ได้เข้าไปพูดคุยเจรจากับแกนนำดังกล่าวที่อยู่บริเวณนั้น ซึ่งเบื้องต้นของการเจรจาก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จ เพราะเกรงว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดนี้จะเข้ามาช่วยการปฏิบัติในพื้นที่ ดังนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมจึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหลบเข้าข้างทางโดยการนำรถไปจอดในลานจอดรถบริเวณใกล้เคียงซึ่งเจ้าหน้าตำรวจก็ปฏิบัติตามนั้น เพื่อที่จะดำเนินการเปิดช่องการจราจร
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มีการเจรจาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งกลุ่มผู้ชุมนุมยอมเปิดเส้นทางช่องทางด่วนให้ 2 ช่องทาง ขณะเดียวกันการเจรจาก็ยังดำเนินอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเวลาประมาณ 23.00 น.ของเมื่อคืนที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุมก็ได้ขอให้ตำรวจทั้งหมดนั้นเดินทางกลับไปยังจังหวัดที่ตนเองมา ซึ่งการเจรจาก็ประสบผลสำเร็จโดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เดินทางกลับร้องขอ เพื่อป้องไม่ให้มีเหตุกระทบกระทั่งที่จะเป็นปัญหากับประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น