นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.)ระบุว่า ในเวลา 16.00 น.จะเรียกนายตำรวจระดับผู้บังคับการและผู้บัญชาการ กองบัญชาการตำรวจนครบาลทุกคนมากำชับถึงแนวทางการปฎิบัติ หากใครไม่พร้อมที่จะทำงานตรงนี้สามารถขอเปลี่ยนตำแหน่งได้ เนื่องจากศอฉ.ได้เพิ่มมาตรการการแก้ไขปัญหาให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น โดยจะไม่ยอมให้มีการกระทำการผิดกฎหมายต่อไป หลังจากที่วานนี้ได้มีการดำเนินการเข้าไปปิดล้อมการทำงานของทางเจ้าหน้าที่
"4 โมงเย็นวันนี้ ผมจะเรียกผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และผู้บังคับการตำรวจนครบาลมากำชับการทำงาน ถ้าใครคิดว่าทำงานนี้ยาก ก็ขอเปลี่ยนตำแหน่งได้" นายสุเทพ กล่าว
และระบุว่า "ศอฉ จะต้องเพิ่มมาตรการในการแก้ไขปัญหาให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น... เราจะไม่ยอมลดละให้คนเหล่านี้มาสร้างปัญหา ความเดือดร้อนอีกแล้ว"
นายสุเทพ ยืนยันว่า ไม่เคยมีกระแสข่าวทหารยศสูงไม่พอใจต่อการสั่งการของรัฐบาลที่ต้องการให้มีการสลายการชุมนุม ที่ผ่านมาได้มีการทำงานร่วมกับทางกองทัพเป็นอย่างดี
ในขณะนี้จะเห็นได้ชัดว่าประชาชนคนไทยได้ใช้ความอดทนมามากพอแล้ว สำหรับการพยายามสร้างความไม่สงบทั้งหลาย จะเห็นว่ากลุ่มผู้ชุมนุมไม่ได้ชุมนุมด้วยความสงบ ตรงกันข้ามกลุ่มผู้ชุมนุมมีพฤติกรรมการที่ดำเนินการผิดกฎหมายตลอดเวลา มีการตั้งด่านตรวจค้นตลอดเวลา ทำร้ายประชาชนที่ไม่ยอมให้มีการตรวจค้น รวมทั้งการปิดกั้นการเดินทางของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ในวันนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกจังหวัดแก้ไขปัญหา โดยเริ่มจากกระบวนการเจรจาและทำตามขั้นตอนการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ซึ่งหากวันนี้มีการปิดถนนอีกก็จะเข้าเจรจาก่อนและหากมีกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนมากก็ให้มีการสนธิกำลังเข้ามาแก้ไขปัญหา แต่หากยังมีการขัดขืนก็ให้มีการดำเนินการจับกุม ภายใต้พ.ร.ก.ที่บังคับใช้
ในส่วนปัญหากรณีที่คนเสื้อแดงขึ้นไปบนสถานีรถไฟฟ้าจนทำให้ต้องปิดบริกการชั่วคราวเช้าวันนี้นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ได้สั่งผบ.ตร.เร่งเข้าไปแก้ปัญหาแล้ว โดยยืนยันว่ากำลังเจ้าหน้าที่มีเพียงพอปฎิบัติการ และที่ผ่านมาได้มีการประคับประคองสถานการณ์เพราะเห็นว่าเป็นคนไทยด้วยกัน แต่เห็นว่าขณะนี้คนเหล่านี้ไม่ใช่คนที่จะพูดจารู้เรื่อง หรือ รับฟังเหตุผลแล้ว แต่ยืนยันไม่ได้ว่าจะไม่ให้มีการปิดถนนอีก เพราะการกระทำของคนพวกนี้ สามารถทำได้ทุกอย่าง แต่หากมีการกระทำความผิด เจ้าหน้าที่จะดำเนินการโดยทันที ทั้งนี้ในพื้นที่ที่สำคัญ กทม. ได้มีการจัดตั้งด่านมั่นคงดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้นแล้ว
พร้อมย้ำว่า สถานการณ์ในขณะนี้อีกไม่นานคงจะแก้ไขปัญหาได้ ไม่คิดจะขีดเส้นตายให้ใคร แต่จะทำงานอย่างเต็มที่ ยืนยันว่าจะไม่ยอมให้มีการละเมิดสถาบันเบื้องสูง ยอมรับว่าหากมีความจำเป็นที่ต้องมีการสกัดกั้นบุคคลที่ละเมิดสถาบันไม่ให้เดินทางออกนอกประเทศก็จะทำ