นายปณิธาน วัฒนายากร โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงต่อสื่อต่างประเทศ อาทิ CNN และ BBC ต่อแนวทางการแก้ไขปัญหาการชุมนุมทางการเมืองในขณะนี้ โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะรักษากฎหมาย ในการระดมทั้งเจ้าหน้าที่ หน่วยงานทุกฝ่ายในการแก้ไขปัญหา พร้อมทั้งดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ที่ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ด้วย ทั้งนี้ นายกฯ ได้ให้แนวทางกับที่ประชุมในการแยกผู้ชุมนุมที่มีข้อเรียกร้องที่ชัดเจนกับผู้ก่อการร้าย
"เมื่อเช้าเวลา 06.00 น. นายกฯ ได้บันทึกรายการของ CNN และคืนนี้ก็จะบันทึกรายการของ BBC อย่างต่อเนื่อง โดยเป็นการชี้แจงการเดินหน้าในการแก้ปัญหาในการรักษากฎหมาย ไม่ให้เกิดการก่อการร้าย พร้อมระดมเจ้าหน้าที่แก้ไขปัญหาให้กับประชาชน รวมถึงจะมีการติดตามเจ้าหน้าที่ที่ละเว้นการดำเนินการและจะมีการดำเนินการทางกฎหมายกับเจ้าหน้าที่นั้นด้วย" นายปณิธาน กล่าว
พร้อมกันนี้ CNN ยังได้ตั้งคำถามถึงมาตรการของรัฐบาลในการขอคืนพื้นที่แยกราชประสงค์ ซึ่งนายปณิธาน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงในรายละเอียดไปแล้ว และสามารถไปติดตามได้ทาง CNN ซึ่งจะออกอากาศตรงกับเวลาในประเทศไทยช่วงตี 2 คืนนี้
นายกรัฐมนตรีมีแนวทางชัดเจนในการให้ทุกกระทรวงเข้ามามีส่วนร่วมในแนวทางการแก้ไขปัญหา โดยวานนี้ได้สั่งการปลัดทุกกระทรวงทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ภายในกระทรวง เพื่อชี้แจงกับประชาชนไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด รวมถึงแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน
นายปณิธาน กล่าวว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ได้ให้ความมั่นใจกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดว่า ขณะนี้ได้เตรียมเจ้าหน้าที่ถึง 3 กองร้อยในการตั้งด่านควบคุมดูแลและไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมมีการกีดขวางจราจร รวมทั้งมีการเร่งดำเนิกการตั้งด่านถาวร รวมถึงการออกหมายเรียกผู้ที่กระทำความผิดต่อไป
อีกทั้ง ในส่วนมวลชนที่ออกมาชุมนุมต่อต้านกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นั้น ก็จะดูแลให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ให้เกิดการเผชิญหน้ากัน
นายปณิธาน กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ ศอฉ.ได้ออกหมายเรียกบุคคลให้เข้ามารายงานแล้วรวมทั้งหมด 113 คน โดยจำนวนนี้มีผู้ที่เข้ามารายงานตัวแล้ว 62 คน และวันนี้ได้มีการออกหมายเรียกเพิ่มเติมอีก โดยจะรวมไปถึงกลุ่มกระบวนการล้มเจ้า
สำหรับข้อมูลที่ได้รับจากผู้ที่มารายงานตัวถือว่ามีประโยชน์มาก ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลกิจกรรมการเคลื่อนไหวของการชุมนุมหรือเครือข่ายผู้ที่ก่อความไม่สงบ ซึ่งพนักงานสอบสวนจะได้รวบรวมพยานหลักฐานเก็บไว้ และยังพบว่ามีบุคคลที่เข้าข่ายเป็นผู้ต้องสงสัยและมีฐานความผิดชัดเจนซึ่งจะดำเนินการทางคดีต่อไป