พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) แถลงภายหลังการประชุมว่า ศอฉ.เรียกประชุมกำลังร่วมระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ ทั้งระดับผบ.ตร. ผบ.ชน. ผบ.ตำรวจภูธรทั้ง 9 และในส่วนของทหารระดับ ผบ.ทบ.ลงมาจนถึงระดับเจ้ากรม เพื่อซักซ้อมความเข้าใจในการปฏิบัติการขอคืนพื้นที่บริเวณแยกราชประสงค์คืนจากกลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่มีการซักซ้อมความพร้อมเรียบร้อยแล้ว สามารถปฏิบัติการได้ทันทีเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม
การปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ทั้งหมดจะยังคงปฏิบัติตามหลักสากล 7 ขั้นตอน โดยไม่มีการใช้อาวุธกระสุนกับพี่น้องประชาชน คงมีเฉพาะการยิงขึ้นฟ้า หรือการยิงเพื่อป้องกันชีวิตของตนเองเท่านั้น ในวันนี้หลักการโดยรวมเหมือนเดิม คือยึดตามหลักสากล เบาไปหาหนัก แต่คงต้องมีระยะห่างระยะไม่สามารถปล่อยให้เข้ามาถึงตัวเจ้าหน้าที่ได้ โดยจะต้องมีระยะปลอดภัยตั้งแต่ 100 เมตรเป็นต้นมาก็คงจะต้องเริ่มเตือนด้วยแก๊สน้ำตา น้ำ เครื่องขยายเสียง กำลังส่งสูง จะไม่ยอมให้เข้าใกล้ในระยะเกินกว่า 30-40 หลา เจ้าหน้าที่ก็มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ปืนลูกซอง
อย่างไรก็ตาม การใช้อาวุธจริงนั้นเรามีการซักซ้อมการปฏิบัติ เพื่อสามารถชี้ชัดต่อสังคมได้ว่าไม่ได้มุ่งที่จะเอาชีวิตกับผู้ชุมนุม มีความสมเหตุสมผลพอเหมาะกับเหตุการณ์ และเพียงพอที่จะระงับยับยั้งไม่ให้ผู้ชุมนุมกระทำความผิดตามกฎหมายต่อไปได้
"อย่างที่เคยเรียนให้ทราบว่า มีการนำเอาอาวุธสงครามของเจ้าหน้าที่ที่นำมายิงขึ้นฟ้า และยิงเพื่อปกป้องชีวิตของตนเองในการปฏิบัติภารกิจเมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมาไปวางกองบนเวที กลุ่มแกนนำก็บอกเองว่าการ์ดของตนเอง ที่เห็นว่าเป็นไอ้โม่งนั้นเอาปืนมาส่งให้ จนป่านนี้ปืนทั้งหลายเหล่านั้นจำนวน 68 รายการ ยังไม่ได้รับคืนเลย ก็แสดงว่ากลุ่มแกนนำได้เอาไปแจกจ่ายหมดแล้ว " โฆษกศอฉ. กล่าว