นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะผู้อำนวยการ ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 3 พ.ค.จะเตรียมเสนอข้อมูลขบวนล้มล้างสถาบันต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เพื่อขอให้รับเรื่องนี้ไว้เป็นคดีพิเศษ เพื่อจะได้ดำเนินการกับบุคคลที่เข้าข่ายหรือมีความเชื่อมโยงกับกระบวนการล้มล้างสถาบันต่อไป
พร้อมระบุว่า แนวทางการแก้ไขปัญหา รวมทั้งตัวบุคคลที่เป็นผู้ก่อการร้ายนั้นจะมีความชัดเจนภายใน 1-2 วันนี้
"รัฐบาลได้เพิ่มมาตรการเข้มข้นขึ้นกับผู้ก่อการร้าย ไม่กี่วันก็จะทราบข้อเท็จจริงว่าใครบ้างเป็นผู้ก่อการร้าย ซึ่งดีเอสไอมีมติเอกฉันท์ที่จะดำเนินคดีนี้เป็นคดีพิเศษ และภายใน 1-2 วันนี้จะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น" นายสุเทพ กล่าวในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร
รองนายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า ในการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารบริเวณอนุสรณ์สถานแห่งชาติเมื่อวานนี้ ตนได้เป็นผู้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ใช้ปืนลูกซองในการปฏิบัติงาน และยืนยันว่าไม่ได้ใช้อาวุธสงครามในการสลายการชุมนุม ซึ่งอาวุธที่นำมาใช้นั้นไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายประชาชน เพียงแต่ต้องการจะให้กลุ่มผู้ชุมนุมหยุดสร้างความวุ่นวาย โดยไม่ได้มุ่งหวังให้เกิดการสูญเสีย
ด้านนายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย(พท.) ได้เสนอให้รัฐบาลประกาศระยะเวลาที่ชัดเจนในการยุบสภา โดยทำเป็นปฏิทินกำหนดกรอบเวลาให้ชัดเจน เพราะเชื่อว่าหากรัฐบาลประกาศยุบสภาจะทำให้สถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้เปลี่ยนไป
ขณะที่นายสุเทพ ยืนยันว่า รัฐบาลยังมีความตั้งใจในการดำเนินตามแนวทางที่อยากให้ได้ข้อสรุปที่ได้รับความเห็นชอบจากทุกฝ่ายในสังคม และหากวันข้างหน้ามีความเห็นตรงกันก็สามารถปรึกษาหารือเพื่อแก้ไขปัญหาและยุติสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ได้