แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง เปิดเผยว่า ได้รับทราบข้อมูลนายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี อนุมัติงบประมาณ 28 ล้านบาทให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI)ใช้ในการหาหลักฐานทำคดีใส่ร้ายกลุ่ม นปช.
"มีการใช้เงิน 28 ล้านให้ซื้อหลักฐานจากที่ต่างๆ เพื่อใส่ร้ายกลุ่มคนเสื้อแดง...เป็นการใช้อำนาจโดยไม่ใช้หลักนิติธรรม"นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่ม นปช.กล่าว
ที่ผ่านมามีหลายเรื่องที่รัฐบาลพยายามใส่ร้ายและยังไม่ยอมออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง เช่น จุดยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่แยกศาลาแดง เมื่อวันที่ 22 เม.ย. หรือกรณีการเสียชีวิตของพลทหารที่บริเวณอนุสรณ์สถานแห่งชาติ นอกจากนี้ยังเลือกปฏิบัติกับกลุ่มบุคลอื่นๆ ที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองต่างไปจากกลุ่ม นปช.
นายจตุพร กล่าวว่า หากรัฐบาลยังสั่งให้ทหารเข่นฆ่าประชาชนต่อไปอาจนำไปสู่สงครามประชาชน ซึ่ง กลุ่ม นปช.จะเดินหน้าสู้ต่อไปหากไม่มีการยุบสภาตามข้อเรียกร้อง เพราะเชื่อว่าอีกไม่เกิน 28 วันจะรู้ผลคดียุบพรรคกรณีใช้เงินกองทุนพัฒนาพรรคการเมือง 29 ล้านบาทผิดวัตถุประสงค์
"ถ้าคุณสั่งให้ฆ่าประชาชนอีกรอบ สงครามประชาชนจะเกิดขึ้นแน่...ถ้าปราบเสื้อแดงที่ราชประสงค์จะมีเสื้อแดงลุกขึ้นสู้ทั่วประเทศ" นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวว่า การเคลื่อนขบวนผู้ชุมนุมในครั้งต่อไปแกนนำฯ จะดำเนินการให้เกิดความรัดกุม ไม่ให้เกิดกรณีที่มีผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตเกิดขึ้นได้อีก