นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากเหตุการณ์ปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่กับกลุ่มเสื้อแดงที่บริเวณหน้าอนุสรณ์สถานแห่งชาติ รวมถึงการที่กลุ่มเสื้อแดงบุกเข้าไปใน รพ.จุฬาลงกรณ์ เพื่อตรวจค้นการซ่องสุมกำลังของเจ้าหน้าที่นั้น ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) ยืนยันว่า แนวทางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่จะมีความเข้มงวดมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้การแก้ไขปัญหาพื้นที่การชุมนุมมีความยากลำบากยิ่งขึ้น และจะไม่ยอมให้มีการข่มขู่คุกคามประชาชน
"การตรวจสอบพื้นที่เข้าออกนั้น เจ้าหน้าที่สามารถทำได้อย่างเข้มแข็งมากขึ้น และจะรักษาความเข้มแข็งนี้ไว้แม้จะมีเหตุการณ์ปะทะกันประปราย เพราะเป็นแนวทางที่รัฐบาลจำเป็นต้องดูแลไม่ให้พื้นที่ดังกล่าวมีการลำเลียงอาวุธ หรือพยายามนำคนไปสมทบ ทั้งนี้เพื่อไม่ให้การแก้ไขปัญหาในพื้นที่ยากขึ้น" นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลกำลังหารือกับผู้บริหารของ รพ.จุฬาลงกรณ์ เพื่อจะปรับแนวทางในการป้องกันและรักษาความปลอดภัยภายในโรงพยาบาล โดยให้โรงพยายาลยังสามารถดำรงรักษาความเป็นกลาง และความเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยตามหลักสากลแก่ประชาชน จากที่ก่อนหน้านี้ผู้บริหารโรงพยาบาลยืนยันว่าจะบริหารจัดการสถานการณ์ด้วยตัวเอง เพราะเป็นห่วงว่าหากให้มีกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามารักษาความปลอดภัยในเขตโรงพยาบาล อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่า รพ.จุฬาฯ เป็นแหล่งพักพิงให้แก่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด
"ขณะนี้ยังปรึกษาหารือกันอยู่ระหว่างตำรวจกับผู้บริหารโรงพยาบาลว่า การดำเนินการที่เหมาะสมที่สุดที่จะคุ้มกันให้ความปลอดภัยแก่โรงพยาบาล โดยยังสามารถรักษาความเป็นกลาง ความเป็นพื้นที่ปลอดภัยของโรงพยาบาลตามหลักสากลจะทำอย่างไร ยืนยันว่ารัฐบาลไม่เพิกเฉยต่อปัญหานี้ และจะหาแนวทางที่เป็นที่ยอมรับของโรงพยาบาลเองด้วย" นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า การเร่งรัดคดีที่เกี่ยวกับก่อวินาศกรรม, การก่อการร้าย และความมั่นคงที่เกี่ยวกับสถาบันหลักนั้นได้มีความคืบหน้าไปมาก ไม่ว่าจะเป็นการจับกุมคนร้ายที่เกี่ยวข้องกับเหตุก่อวินาศกรรมต่างๆ เช่น คนร้ายที่ลอบยิง RPG ไปที่กระทรวงกลาโหม, การยึดอาวุธสงคราม M79 ได้จำนวนมาก ตลอดจนการจับกุมนายเมธี อมรวุฒิกุล หนึ่งในแนวร่วมนปช.ที่ให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อการนำไปขยายผลทางคดีเพื่อจับกุมบุคคลต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องและเชื่อมโยงได้เป็นอย่างดี
พร้อมระบุว่า การเดินหน้าแก้ปัญหาสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองในขณะนี้ ทราบดีว่าบางครั้งพี่น้องประชาชนเมื่อเห็นเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นและกระทบกระเทือนจิตใจจะรู้สึกว่ารัฐบาลและศอฉ.นิ่งเฉยไม่ได้ดำเนินการอะไร แต่ยืนยันว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพียงแต่การทำงานบางขั้นตอนไม่สามารถเปิดเผยได้
"เราจะเดินหน้าอย่างเข้มแข็ง ผมทราบดีว่าบางครั้งพี่น้องประชาชนเมื่อเห็นเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น กระทบกระเทือนจิตใจ ก็รู้สึกว่ารัฐบาล และศอฉ.ไม่ได้ดำเนินการอะไรเลย ขอยืนยันว่าไม่เป็นเช่นนั้น เพียงแต่การทำงานบางขั้นตอนไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่มุ่งหน้าจะนำไปสู่การคลี่คลายสถานการณ์แน่นอน" นายกรัฐมนตรี กล่าว
ขณะเดียวกันรัฐบาลได้ทำงานควบคู่กันไปในการหาคำตอบทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการเปิดอภิปรายในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีการนำเสนอแนวทางการแก้ไขสถานการณ์ทางการเมืองที่หลากหลาย ตลอดจนการรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาสังคมเพื่อร่วมกันหาทางออกทางการเมือง ทั้งนี้เพื่อจะนำไปสู่กระบวนการปรองดองสมานฉันท์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตต่อไปหลังจากการแก้ไขปัญหาการชุมนุมสำเร็จเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว