หลังจากในช่วงเช้า พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ไม่ยินยอมให้มีการไม่รื้อถอนบังเกอร์บริเวณทางเข้าออกฉุกเฉิน โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ แม้แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จะมีมติให้รื้อถอน โดยอ้างเรื่องความไม่ปลอดภัยกับกลุ่มผู้ชุมนุม ที่อาจถูกทหารเข้ามาถูกสลายได้ จนนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.ต้องเข้าเจรจาจน เสธ.แดงยอมรื้อถอนในที่สุดในช่วงบ่าย
ขณะที่พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เข้าเจรจากับนายพายัพ ปั้นเกตุ นายสุพร อัตถาวงศ์ แกนนำกลุ่ม นปช. เพื่อขอเปิดเส้นทางเข้า- ออกโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
ซึ่งพล.ต.ท.สัณฐาน กล่าวว่าหากผู้ชุมนุมไม่ยอมเปิดเส้นทาง ตำรวจจำเป็นต้องใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุม และหากผู้ชุมนุมยอมเปิดทางเข้าออก จะนำกำลังมารักษาความปลอดภัยให้อย่างเต็มที่ ซึ่งการเจรจาใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก่อนที่แกนนำได้ประกาศให้ผู้ชุมนุมและการ์ด นปช.รื้อถอนบังเกอร์หน้าโรงพยาบาล
โดยพลตรีขัตติยะ และ นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำ นปช. ออกมาคุมมวลชนทำการรื้อบังเกอร์ที่ปิดถนนราชดำริบริเวณแยกศาลาแดงออก 1 ช่องจราจร เพื่อเปิดทางให้รถพยาบาลของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สามารถเข้า-ออกทางดังกล่าวได้ แต่แม้จะมีการรื้อบังเกอร์ออก แต่ทาง นปช.ยังตั้งด่าน มีชายฉกรรจ์เป็นอาสาด่านหน้าอยู่ยาม 24 ชั่วโมง คอตรวจรถทุกคันที่จะเข้า-ออกทางดังกล่าวอย่างละเอียด เพื่อป้องกันไม่ให้กำลังของทหารแฝงตัวเข้ามาในพื้นที่การชุมนุมของ นปช.
โดย นายอริสมันต์ ประกาศจะเป็นผู้คุมด่านดังกล่าวด้วยตนเอง โดยจะมาตรวจด่านด้วยตัวเองทุก ๆ ชั่วโมง ซึ่งทางดังกล่าวหากไม่ใช่ผู้บาดเจ็บ หรือรถพยาบาล ก็จะไม่อนุญาตให้เข้ามาโดยเด็ดขาด
ขณะที่เจ้าหน้าที่เทศกิจ เริ่มเข้าทำความสะอาดถนนราชดำริทันที โดยนำรถน้ำมาฉีด และเก็บเศษแก้ว ขวดน้ำ และก้อนหิน ออกจากพื้นที่การชุมนุม โดยมี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อย พร้อมกล่าวขอบคุณผู้ชุมนุมที่ยอมเปิดช่องทางจราจรอย่างไม่มีเงื่อนไข และได้แจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบถึงข้อเรียกร้องของแกนนำ ที่ให้รัฐบาล สั่งถอยกำลังทหารออกจากแยกศาลาแดงออกไปอีก 150 เมตร และเตรียมออกประกาศกรุงเทพมหานคร ขอความร่วมมือให้แกนนำดูแลเจ้าหน้าที่หน่วยแพทย์กรุงเทพมหานคร ที่ดูแลผู้ชุมนุม เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บแล้วหลายคน