พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) กล่าวถึงกรณี ศอฉ.สั่งใช้กำลังทหารว่า การหารือเมื่อวานและช่วงเช้าที่ผ่านมาให้จัดเตรียมรถเกราะสำหรับสลายการชุมนุม ว่า รถเกราะถือเป็นยุทโธปกรณ์ชนิดหนึ่งที่ทำให้ทหาร ตำรวจที่จะปฏิบัติภารกิจมีความปลอดภัย จะเป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีว่ากลุ่มผู้ชุมนุมได้ยิงอาวุธใส่เราหรือไม่ ซึ่งในรถหุ้มเกราะเวลาเคลื่อนที่จะได้ทราบว่ามีอาวุธชนิดใดยิ่งใส่เราบ้าง ไม่อยากให้วิจารณ์ว่าเหตุใดถึงใช้รถเกราะกับผู้ชุมนุม แต่ต้องดูวัตถุประสงค์ของการใช้แม้รถหุ้มเกราะใช้เฉพาะสงคราม โดยต้องการให้เป็นส่วนกำบัง สร้างความปลอดภัยให้ทหาร ตำรวจ ในการปฏิบัติภารกิจ และเมื่อมีรถหุ้มเกราะ ทำให้เจ้าหน้าที่เคลื่อนหาผู้ชุมนุมได้ โดยไม่ต้องตอบโต้ด้วยอาวุธเกินความจำเป็น เป็นความปลอดภัยด้วยกันทั้งสองฝ่าย
ทั้งนี้ยังไม่ได้นำรถหุ้มเกราะดังกล่าวเข้าไปในพื้นที่ ส่วนการสลายการชุมนุมขณะนี้ยังไม่ระบุเงื่อนเวลา แต่หากมีการปฏิบัติจะให้สูญเสียน้อยที่สุดทั้งจากผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวด้วยว่า หากเกิดปัญหาที่ไหนเราจะมีกองกำลังเคลื่อนที่เร็วส่วนหนึ่งที่สามารถแก้ไขปัญหาได้ โดยในโซนพื้นที่ที่ประกอบกำลังด้วยตำรวจภูธรภาคบวกกับทหาร ผู้รับผิดชอบพื้นที่จะเป็นผู้แก้ปัญหาก่อน หากเห็นว่าการเคลื่อนไหวกลุ่มผู้ชุมนุมไม่สามารถแก้ไขได้ก็จะร้องขอกำลังจากแม่ทัพภาค 1 ที่จะมีกองหนุนระดับที่ 1 แต่หากเห็นว่าไม่สามารถแก้ไขได้จะขอกองหนุนเคลื่อนที่เร็วของ ศอฉ. ซึ่งจะเป็นกองหนุนระดับ 2 ส่วนการผลัดเปลี่ยนพลทหารกองประจำการนั้นไม่มีปัญหาการปฏิบัติภาร เพราะพลทหารรุ่นหนึ่งมีประมาณ 3 หมื่น แต่เรานำกำลังพลทหารมาใช้ในส่วน ศอฉ. 4-5 พันคน แม้จะหมดพลทหารกองประจำการไปผลัดหนึ่งก็ไม่มีปัญหา สามารถดึงกำลังพลทหารจากอีก 3 ผลัดได้
สำหรับการลงโทษ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณกองทัพบก พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า พล.ต.ขัตติยะ อยู่ระหว่างพักราชการ อะไรก็แล้วแต่ที่ทำถือเป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระ ซึ่งจะมีผลต่อการดำเนินการด้านวินัยต่อไป