ศอฉ.แถลงผลการจับกุมอาวุธร้ายแรงจำนวนมากที่ใช้ก่อความไม่สงบ

ข่าวการเมือง Monday May 3, 2010 18:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วยแพทย์หญิง คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และชุดปฏิบัติการของ ศอฉ. ร่วมกันแถลงข่าวผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศ ถึงรายงานผลการจับกุมอาวุธร้ายแรงที่เกี่ยวกับเหตุความไม่สงบในวันนี้ ว่า

วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้ทำการตรวจค้นและยึดอาวุธวัตถุระเบิดจำนวนมาก ประกอบด้วย อาวุธ M16 จำนวน 1 กระบอกพร้อมกระสุนจำนวน 480 นัด อาวุธปืนคาร์บินจำนวน 1 กระบอกพร้อมกระสุนจำนวน 115 นัด อาวุธอาก้าจำนวน 5 กระบอกพร้อมกระสุนจำนวน 247นัด ลูกระเบิดชนิดขว้าง M67 จำนวน 3 ลูก ลูกระเบิดขว้าง M26 จำนวน 5 ลูก ลูกระเบิดชนิดยิง M79 จำนวน 4 ลูก ประทัดยักษ์จำนวน 20 ลูก กระสุนปืนลูกซองจำนวน 18 นัด หนังสติ๊กพร้อมลูกแก้วสำหรับใช้ยิงจำนวนมาก ระเบิดขว้างสีฟ้าไม่ทราบชนิดจำนวน 1 ลูก พร้อมขวดแก้วเครื่องดื่มบรรจุน้ำมันไว้แล้วเพื่อใช้เป็นระเบิดเพลิงจำนวน 107 ลูก เครื่องหมายสัญลักษณ์กลุ่มคนเสื้อแดง เช่น ผ้าพันคอ ปอกแขน เสื้อ ธงสัญลักษณ์ หมวก และแผ่นซีดีที่ใช้ปลุกระดมจำนวนมาก รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้าติดทะเบียนปลอมจำนวน 1 คัน และอาวุธมีดขนาดต่าง ๆ อีกจำนวนมาก

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเฮลิคอปเตอร์บริเวณที่จุดปะทะการชุมนุมเป็นเหตุให้พ.อ.มานะ ปริญญาศิริ รองผู้อำนวยการกอง กรมยุทธการทหารบก ได้รับบาดเจ็บ จากการสืบสวนตลอดมาโดยการนำของพล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และชุดปฏิบัติการพิเศษ ซึ่งประกอบด้วยทหารและตำรวจของศอฉ. ทำให้สามารถจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาได้จำนวนหนึ่ง และทำการสืบสวนขยายผลจนกระทั่งสามารถทำการตรวจค้นและยึดของกลางตามรายการดังกล่าวได้เป็นจำนวนมากข้างต้น และยังอยู่ระหว่างการสืบสวนเพื่อขยายผลอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ผลการสืบสวนและสอบปากคำกลุ่มผู้เป็นคนร้ายในเบื้องต้นได้ความว่าอาวุธปืนและวัตถุระเบิดดังกล่าวเป็นชนิดเดียวกันกับที่ใช้ก่อเหตุขึ้นจำนวนหลายครั้งกับความไม่สงบที่เกิดอยู่ในขณะนี้ และขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อยืนยันและจับกุมผู้กระทำความผิดเพิ่มขึ้นอีกต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ